หมวดหมู่: ท่องเที่ยว

เด็กๆคงจะอยาไปเที่ยวสวนสัตว์ซาฟารีเพราะว่าเด็กๆก็คงอยากจะใกล้ชิดกับสัตว์ป่าต่างๆและวันนี้เราจะมาบอกว่าจะมีสัตว์ชนิดใดบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ วันนั้นฉันและครอบครัวของฉันต้องการที่จะไปดูสัตว์เราเลยจะไปที่สวนสัตว์ซาฟารีดังนั้นพ่อจึงขับรถพาเราทั้งครอบครัวไปเที่ยวกันหลังจากที่พ่อขับรถไปถึงเราก็ได้พบกับที่จ่ายเงินค่าเข้าและจะมี 2 โซนให้คุณได้เลือกว่าจะไปดูสัตว์แบบไหน

ที่นี้จะมีอยู่สองแบบแบบเรียกคือเราจะขับรถเข้าชมสวนสัตว์อันตรายต่างๆส่วนอีกแบบนึงจะเป็นให้เราเดินเพื่อดูสัตว์น่ารักต่างๆมากมายหลายแบบแต่เนื่องจากว่าฉันขอคุณพ่อว่าอยากดูสัตว์ทั้ง 2 แบบหลังจากที่อ้อนพ่อสักพักพ่อก็ยอมใจอ่อนได้จ่ายเงินให้เราทั้งครอบครัวทั้งแบบขับรถและแบบเดินหลังจากที่เราจ่ายเงินค่าเข้าเรียบร้อย

เรารีบขอพ่อให้พาเราไปชมสวนสัตว์อันตรายก่อนและพ่อจึงทำตามใจของเราในตอนแรกเมื่อเราสักพักเราก็พบกับควายป่ามีอยู่เต็มไปหมดรวมถึงเห็นฮิปโปและเห็นแรดแม่ลูกอยู่ด้วยกันนอกจากนั้นยังเห็นม้าลายเส้นสำหรับการขับรถในการเที่ยวชมสวนสัตว์ซาฟารีหรือทางสวนสัตว์ได้ออกกฎไว้ว่าห้ามเปิดประตูลงจากรถโดยเด็ดขาดหรือแม่จะเปิดกระจกทางซาฟารีทางสวนสัตว์ก็มีให้

ดังนั้นเราจึงไม่ได้สัมผัสบรรยากาศอย่างใกล้ชิดนักแต่ก็ทำให้เราดีใจขึ้นหน่อยเนื่องจากว่ามีม้าลายตัวหนึ่งเดินเข้ามาข้างๆรถเราทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าได้สัมผัสใกล้ชิดกับมันจริงๆถึงแม้จะไม่ได้รูปมันแต่ฉันก็รู้สึกดีหลังจากนั้นเราจึงเดินทางต่อไปได้พบกับประตูกรงเหล็กประตูนึงมีป้ายแบบเลยว่าโดนสิงโตและเสือก็ฉันเป็นคนชอบเสือและสิงโต

หลังจากนั้นพ่อจะพาฉันขับเข้าไปในประตูกรงเหล็กเราไม่เห็นสิงโตหรือเสือแม้แต่ตัวเดียวแค่หางเสือหรือสิงโตฉันยังหาไม่เจอเลยอย่างนั้นเราจึงขับต่อไปแต่พอจะถึงทางออกเราก็พูดว่าสิงโตและเสือทั้งฝูงต่างก็มานอนอยู่ตรงที่เดียวกันอยู่ใต้ต้นไม้เพื่อหลบแดดอาจจะเป็น

เพราะวันที่ฉันมาอากาศร้อนเราเสือและสิงโตทนอากาศร้อนไม่ไหวจึงนอนหลับใต้ต้นไม้แทนใจฉันก็เสียดายนิดๆแต่ยังไงเราก็ได้เห็นสิงโตและเสืออย่างใกล้ชิดอยู่ดีหลังจากออกมาจากโซนสิงโตเรียบร้อยเราก็พบกับประตูกรงเหล็กอีกประตูนึงเขียนไว้ว่าจะมีนกยูงฉันดีใจมาก

เพราะฉันก็ชอบนกยูงเหมือนกันดังนั้นฉันจึงขอพ่อให้เขาเข้าไปเพราะฉันก็ขับเข้าไปและขับแบบช้าๆถือว่าเราจะเจอนกยูงข้างทางได้ดูแต่หลังจากที่เดินไปเราก็ไม่เจอนกยูงเลยแม้แต่สักตัวเดียวจนขับออกไปจากตรงประตูก็ยังไม่เห็นฉันเลยคิดว่าบางทีทางสวนสัตว์อาจจะเอา นกยูงออกไปหมดแล้วก็ได้หรือบางทีนกยูงมันอาจจะมีอยู่จริงๆแต่เพียงแค่มันไม่ได้แสดงตัวออกมาตอนที่เราขับรถมาเท่านั้นเองแต่ก็ไม่เป็นไรหลังจากนั้นเราก็ขับรถต่อไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ดูบอล

พระธาตุผาซ่อนแก้ว  เป็นที่น่าท่องเที่ยวที่สุดเพราะมีพระธาตุห้าองค์ซ้อนกันอยู่  ถ้ามาในฤดูฝนจะเห็นความสวยงานแถมได้เห็นทะเลหมอกลอยผ่านหน้าเราเลยก็ว่าได้ ส่วนการแต่กายวัดนี้เขาจะเข้างวดกันหน่อยสำหรับผู้หญิง เพราะถ้าใส่กลางเกงขาสั้นกระโปรงสั้น

ทางวัดจะมีกางเกงหรือผ้าถุงให้สวมใส่  มีสถานที่จอดรถให้แต่ต้องเสียค่าจอดประมาน30บาท วัดนี้เป็นที่ท่องเที่ยวอีกที่สวยงามมากมีจุดชมวิวที่สวยแถมยังให้เราเช็คอินได้ด้วยนะ 

ทุ่งกันหันลมเขาค้อ  นี่เป็นอีกจุดนึงที่น่าไปมีสวนดอกไม้นาๆพันธุ์จาก๓เรือ และจุดสำคัญคือกังหันลมให้เราเข้าไปถ่ายรูปเช็คอิน วิวสวยๆยิ่งไปตอนปลายฝนต้นหนาวนั่นจะได้วิวที่สวยมาก อากาศเย็นไแถมที่นี่ยังเปิดให้บริการกางเต้นท์ให้นอนพักค้างคืนอีกด้วยยิ่งถ้าเราในช่วงที่เป็นวันธรรมดาคนจะน้อย แต่ถ้าเราไปในช่วงวันหยุดแน่นอนนั้นคนเยอะมาก  ก็อย่างว่าอ่ะค่ะใครๆก็อยากมาสัมพัสอยากเย็นๆวิวสวยๆเป็นธรรมดา 

ภูทับเบิก  สิ่งแรกถ้านึกถึงเพรชบูรร์เราจะนึกถึงทันทีภูทับเบิกเป็นจุดชมวิวทะเลหมอก แนะนำให้ไปในช่วงฤดูหนาว จะเห็นทะเลหมองได้สัมพัสอากาศเย็นเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและยังมีจุดกางเต้นท์ ให้เรานอนพัก ชมสัมพัสอากาศที่เย็น ทะเลหมอกเราขอแนะนำให้ไปในช่วงฤดูหนาวจะฟินสุดๆๆ

อุตทยานแห่งชาติเขาค้อ ที่นี่เป็นอุตทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ ที่นี่สีสันสวยงามอลังตา ด้วยแสงแดดที่กระทบหญ้าสีเหลืองทอง ทำให้มีสีสันสวยงามแต่แต่งกันออกไปแถมมีจุดกลางเต้นท์ที่ให้เราได้สูดอากาศที่ชื่น

น้ำตกศรีดิษฐิ์  จะเสียค่าเข้า30บาท เป็นน้ำตกชั้นเดียวแต่ไม่ให้ลงเล่นน้ำเพราะน้ำมันลึกถือเป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตเลยก็ว่าได้นักท่องเที่ยวสามารถหย่อนขาลงไปแช่  และยังมีอาหารให้นัท่องเที่ยว  อาทิเช่น ส้มตำ ไก่ย่าง ไข่ปิ้ง เครื่องดื่ม และอีกมากมาย

พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก เป็นจุดแวะสำหรับท่องเที่ยวสำหับคนที่ไปเที่ยวเขาค้อ ต้องแวะเข่ามาสักการะเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตโดยข้างในมีพระให้กราบไหว้ ดูแล้วเงียบสงบ เพราะฉนั้น ถ้าใครชอบความสงบก็ควรมาสักการะที่นี่สักครั้ง

โบราณสถานเขาคลังนอก อตุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้มีลักษณะเป็นเนินคล้ายภูเขาเป็นแหล่งที่ค้นพบโบรณ์มีรถรางพาเราเยี่ยมชมจุดสถานที่ต่างๆแต่เสียค่าเข้าชม คนล่ะ30บาท เทียบเท่ากับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ทั้งเที่ยวและได้เรียนรู้ คุ้มๆด้วย 

วัดธรรมยาน  วัดนี้เป็นวัดสายบุญเลยก็ว่าได้สงบร่มเย็น  แต่วัดนี้จะอยู่ไกลจากถนนใหญ่สักนิดนึงแต่พอไปถึงไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนเพราะภายในวัด วัดมีจุดเด่นคือมีรุปปั้นพญานาค ล้อมรอบ และยังมีเจดีอยู่บนวัดด้วย บอกเลยว่า ไม่ผิดหวัง ที่มาวัดนี้

อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ  เป็นสถานที่อยู่ยอดบนสุด  บรรยากาศดี เย็นสบาย เป็นในเชิงเล่าประวัติศาสตร์เหมาะแก่การพาลูกหลานมาจะได้รู้รับรู้ประวัติศาสตร์  และมีวิวทิวทัศน์ ที่น่าถ่ายรูป  สวยงาม ลมเย็นสดชื่น

จุดจับหมอก  เป็นจุดชมวิวที่น่าไปในช่วงฤดูหนาวหรือหน้าฝน  เพราเราจะเห็นทิวหมอก ลอย ยิ่งเป็นช่วงเสาร์ อาทิตร์  หรือวันหยุด จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของ เช่น ส้มตำ ไก่ย่าง เครื่องดื่ม  เป็นอีกหนึ่งสถานที่หนึ่งที่น่าไป 

สวนสัตว์เปิดเขาค้อ  ตั้งอยู่สายทางหลวง2258  เป็นสวนสัตว์ที่เปิดเข้าฟรีไม่เสียค่าเข้า   เป็นโครงการมาจากราชดำริ  มีสัตว์ที่หายาก เช่นกะทิง  กระจง  เก้ง กวาง เหล่านกนาๆพันธุ์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่เป็นเหล่า เรียนรู้ เหมาะแก่การ ไปเป็นทนัศึกษา 

อุทยานแห่งชาติตาดหมอก  เป็นสถานที่สดชื่นอุดมสมบูรณ์   มีน้ำตกสูงไลงลงมา แต่แนะนำให้มาช่วงหน้าฝนจะได้เห็นธรรมชาติในป่า  และยังเห็นน้ำตกที่ไหลมีละอองน้ำ เป็นฝอยๆ ไปนั่งสูดอากาศ ที่เป็นธรรมชาติ  แถมยังได้เช็คอินถ่ายรูป  อีกด้วย 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ดูบอล

การเสพติดการเดินทางนั้นอาจจะบอกได้ว่าเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่งที่เป็นแล้วไม่ได้เป็นอันตรายกับคนรอบข้างหรือกับตัวเองแต่เป็นอันตรายกับเงินในบัญชีนั่นเอง

และเชื่อว่าการเสพติการเดินทางนั้นมีคนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่กำลังมีพฤติกรรมความต้องการการไปเที่ยวความต้องการในการที่จะออกเดินทางเพื่อไปท่องเที่ยวนั่นเอง 

สำหรับการเสพติดการเดินทางหรือการท่องเที่ยวนั้นจุดเริ่มต้นมาจากการที่ได้ไปเที่ยวครั้งหนึ่งแล้วเกิดความประทับใจในการท่องเที่ยวครั้งนั้นอย่างมากและการเสพติดการเดินทางนั้นจะเริ่มเป็นช่วงที่เรารู้เรื่องหรือมีความทรงจำเกี่ยวกับสถานที่หรือการเดินทางเหล่านั้น

โดยการเสพติการท่องเที่ยวจะไม่ค่อยเกิดขึ้นในช่วงวัยเด็กเพราะถึงแม้ว่าในช่วงวัยเด็กเราจะได้เที่ยวหรือได้ออกเดินทางไปยังที่ต่างๆมากมายแต่เราอาจจะไม่ได้มีความทรงจำที่ดีมากนัก อาจจะได้ไปเที่ยวเพราะพ่อแม่หรือญาติพาไป และไม่สามารถที่จะเดินทางได้ได้ด้วยตัวเองด้วยหรือความทรงจำในวัยเด็กอาจจะหายไป

จึงทำเรานั้นอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเมื่อตอนเรายังเด็กนั้นเราไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง จึงทำให้การเสพติดการเดินทางหรือการท่องเที่ยวนั้นไม่เกิดขึ้นในวัยเด็กแต่จะเกิดขึ้นในวัยที่เราเจริญเติบโตและมีความทรงจำกับสถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทางเหล่านั้นที่มีการเดินทางหรือท่องเที่ยวด้วยตัวเองแล้วนั่นเอง

อาการของการเสพติดการเดินทางและการท่องเที่ยวสามารถสังเกตได้ง่ายๆก็คือ เมื่อได้ไปเที่ยวสถานที่แปลกใหม่เช่นต่างประเทศหรือสถานที่ที่มีความสวยงามและเรานั้นไม่เคยไป และเมื่อไปแล้วมีความสุข สนุกสนานในตอนที่เราเดินทางท่องเที่ยวนั้น เมื่อกลับมาจากการเดินทางครั้งแรกนั้นเราจะมีการสร้างแพลนการไปเที่ยวในครั้งต่อไปได้อย่างรวดเร็ว

และบางคนที่อาการหนักๆนั้นก็จะมีการสร้างแพลนหลายๆที่ท่องเที่ยวที่อยากจะออกเดินทางไปด้วย ถึงแม้บางครั้งจะได้ไปหรือไม่ได้ไปตามที่หวังก็ตามแต่อาการของการเสพติดการเดินทางท่องเที่ยวนั้นคือจะต้องหาข้อมูลค้นคว้าเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ในทุกๆวันนั่นเอง

และอาการอีกอาการที่สามารถแสดงออกมาและเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือถ้าหากเป็นคนที่ต้องทำงานหรือทำงานบริษัทมีวันหยุดที่รู้ล่วงหน้า จะเฝ้านับวันรอให้ถึงวันนั้นและช่วงเวลาที่เฝ้ารอนั้นเหมือนการใช้ชีวิตไปวันๆเพื่อให้วันเวลาเหล่านั้นผ่านไปเพื่อที่จะได้ถึงวันหยุดและได้ออกเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆที่ตั้งใจหรือวางแผนไว้นั่นเอง 

การเสพติดการเดินทางท่องเที่ยวนั้นถ้าเป็นหนักมาๆ คนเหล่านี้จะสามารถออกเดินทางได้คนเดียวโดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ร่วมทริปเลยก็ได้ บางคนที่เสพติดการเดินทางบอกว่าพวกเค้านั้นมีความสุขแค่เพียงได้ออกเดินทางและมีความสุขเพิ่มขึ้นเอเค้าได้ไปเจอสิ่งใหม่ๆที่เค้าไม่เคยเจอมาก่อน ม่าจะเป็นผู้คนใหม่ ธรรมชาติ หรืออื่นๆอีกมากมายนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  จุดอ่อนบาคาร่า

ประเทศญี่ปุ่น เมื่อพูดถึงแล้วสิ่งแรกที่เรานึกถึงนั้นคงจะเป็นอาหารเพราะอาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและความอร่อยที่โดดเด่นไม่แพ้ประเทศอื่นๆเลย และนอกจากอาหารแล้วญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมไว้อย่างดี

ทำให้บ้านเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆนั้นก็มีความน่าสนใจอย่ามากเช่นกัน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆทางธรรมชาติญี่ปุ่นก็มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามยากจะหาประเทศอื่นๆมาเปรียบได้ จึงทำให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะต้องมาสัมผัสประเทศญี่ปุ่นสักครั้ง

และสถานที่ที่น่าสนใจในประเทศญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็คือฟูเขาไฟฟูจินั่นเอง โดยภูเขาไฟฟูจินั้นตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบคะวิงุชิในจังหวัดคาวากุชิโกะ ภูเขาไฟฟูจินั้นเป็นภูเขาไฟที่มีการระเบิดและปะทุแต่ปัจจุบันได้มอดดับลงแล้ว

เนื่องจากเป็นภูเขาไฟที่อยู่บริเวณทะเลสาบทำให้มีความสวยงามอย่างมากและจะมีความสวยงามที่สุดในช่วงฤดูหนาวเพราะจะมีหิมะปกคลุมเป็นสีขาวโพนอยู่บนยอดด้านบนนั่นเอง และนอกจากฟูจิคาวากุชิโกะนั้นจะเป็นจุดที่สามารถเห็นวิวของภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจนและสวยงามที่สุด บริเวณรอบๆก็ยังมีสถานที่เที่ยวที่สวยงามอีกมากมาย

โดยการเดินทางรอบบริเวณคาวากุชิโกะนั้นจะมีบริการ Sightseeing Bus จะมีการแบ่งออกเป็น Redline Greenline Blueline จะเป็นรถบัสที่วนรอบคาวากุชิโกะทั้งหมด

โดยปกติแล้วการนั่งรถบัสไปยังที่ต่างๆนั้นจะต้องเริ่มจาก Kawaguchiko Station โดยเมื่อเดินออกมาจากสถานีรถไฟก็จะเจอจุดรอรถบัสเลยและสามารถซื้อตั๋วได้ภายในสถานีรถไฟเลยและจะมีแผนที่ให้มาด้วย ในแผนที่ก็จะบอกรายละเอียดทั้งสายรถ เวลาเดินรถ และสถานที่ต่างๆไว้อย่างละเอียด ไม่ต้องกลัวหลงเลย โดยราคาตั๋วนั้นก็จะมีหลายราคาตามจำนวนวันนั่นเอง

โดยปกติแล้วส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวก็จะนิยมซื้อแบบสองวันเพราะราคาจะคุ้มกว่า โดยราคาสองวันนั้นจะอยู่ที่ 1,500 เยนและจะต้องใช้ทันทีในวันที่ซื้อไม่สามารถเก็บไว้ได้นั่นเอง โดยสามารถใช้ขึ้นรถบัสได้ทุกสาย โดยไม่จำกัดรอบหรือเที่ยว สามารถขึ้นกี่รอบก้ได้ในระยะเวลาสองวันคุ้มมากๆ โดยรสบัสสาย Redline นั้นจะวิ่งไปทางด้านบนและทางด้านขวาข้างล่างของทะเลสาบนั่นเองจะมีรอบรถเยอะมาก Greenline จะวิ่งในระยะทางที่ไกลทางด้านบนสามารถไปยังทะเลสาบอื่นๆ

ได้ด้วย และ Blueline จะวิ่งไปทางด้านล่างของทะเลสาบนั่นเอง การเดินทางรอบๆคาวากุชิโกะนั้นสามารถเดินทางด้วยรถบัสทั้งหมดได้นั่นเอง แต่หากอยากได้ความสะดวกสบายที่มากกว่าที่นี่ก็มีบริการรถเช่าด้วยแต่แนะนำว่าหากต้องการเช่ารถนั้นควรเช่าออนไลน์ล่วงหน้าเพราะหากไปเช่าเมื่อถึงที่โน่นนั้นราคาแพงมากๆเลยทีเดียว

จังหวัดจันทบุรีเป็นจังหวัดเล็ก ๆจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติมากมาย นักท่องเที่ยวที่รักการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จึงพลาดไม่ได้ที่จะมาสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติที่จังหวัดจันทบุรี

1. จุดชมวิวเนินนางพญา คุ้งวิมาน เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพที่สวยงามของจังหวัดจันทบุรี นักท่องเที่ยวที่อยากชมพระอาทิตย์ตกดินลับหายไปในท้องทะเล จึงพลาดไม่ได้เลยที่จะมาชมวิวที่เนินนางพญาแห่งนี้ และที่จุดชมวิวนี้มักจะมีคู่รักนำแม่กุญแจมาคล้องไว้เป็นจำนวนมาก ด้วยความเชื่อว่าหากคู่รักที่มาที่จุดชมวิวเนินนางพญาแห่งนี้ แล้วได้คล้องกุญแจด้วยกัน จะมีความรักที่ยืนยาวรักกันตลอดไปเหมือนกับแม่กุญแจ 
2. ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน เป็นโครงการของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการศึกษา และการพัฒนาด้านการประมง และกิจกรรมต่าง ๆ จึงเป็นสถานที่ ๆเหมาะกับผู้ที่ต้องการมาท่องเที่ยวเพื่อศึกษาหาความรู้เชิงอนุรักษ์
3. น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกที่อยู่คู่กับความทรงจำของคนไทย เพราะเป็นสถานที่ ๆพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จมามากถึง 12 ครั้ง บริเวณโดยรอบห้อมล้อมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย น้ำตกพลิ้วมีทั้งหมด 3 ชั้น น้ำมีสีเขียวเหมือนกับมรกต และมีฝูงปลาพลวงหินแหวกว่ายอยู่มากมาย ให้ความเป็นธรรมชาติสุด ๆ
4. Viva Foresta Farm เป็นฟาร์มสัตว์แห่งแรกของจังหวัดจันทบุรี มีสัตว์นานาชนิดมากมาย บรรยากาศล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูง และสวนดอกไม้ที่บานสะพรั่งดูสบายตา และยังเป็นสวนสัตว์ที่เปิดให้เข้าไปให้อาหาร และสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ได้อีกด้วย เป็นธรรมชาติสุด ๆไปเลย
5. ชุมชนริมน้ำจันทบูร เป็นชุมชนเก่าแก่ที่อยู่คู่กับจังหวัดจันทบุรีมานานกว่า 300 ปี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ บ้านเรือนโดยส่วนใหญ่ในละแวกนี้ยังคงเป็นบ้านแบบเก่าให้ความรู้สึกถึงวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยอดีต เหมาะกับการไปถ่ายรูปกับบรรยากาศธรรมชาติที่สุดแสนจะคลาสสิคอีกด้วย 
6. ทะเลแหวกจันทร์ หรือทะเลแหวกบางชัน เป็นทะเลที่มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกิดน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งเกิดจากการที่เปลือกหอยทับถมกันบนสันทรายจนเกิดความยาวออกไปจนถึงกลางทะเลประมาณ 700 เมตร และทะเลที่นี่ก็มีพื้นทรายเป็นสีดำ ซึ่งเกิดจากธรรมชาติอีกด้วย นักท่องเที่ยวที่ต้องการศึกษาธรรมชาติจึงไม่ควรพลาดที่จะมาชมทะเลแห่งนี้
7. เขาคิชกูฏ เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทที่อยู่บนภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทยโดยเปิดให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มีจิตศรัทธาเข้าเยี่ยมชม สักการะ บูชาเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น 

สำหรับคู่รักที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในช่วงวันหยุดยาว วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่เที่ยวที่มีความโรแมนติกเหมาะกับการไปท่องเที่ยวกับคู่รักเป็นอย่างมากมากฝากกันมาดูกันว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง

1. เกาะพยาม จังหวัด ระนอง สถานที่แห่งแรกที่จะแนะนำถือได้ว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมากจนที่นี่ถูกขนานนามว่า มัลดีฟส์เมืองไทย เพราะทะเลที่นี่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก น้ำทะเลสีฟ้าใส มองลงไปสามารถเห็นปะการังใต้น้ำได้เลยและที่นี่บรรยากาศก็เงียบสงบเหมาะกับการมาพักแบบต้องการความเป็นส่วนตัว
2. บ่อเกลือ จังหวัดน่าน สำหรับสถานที่โรแมนติกแหล่งที่สองนั้นเป็นการเที่ยวแบบธรรมชาติ ใครที่อยากตื่นเช้าขึ้นมาท่ามกลางอากาศเย็นสบาย สดชื่นและมีหมอกอ่อนอ่อนในยามเช้าแล้ละก็มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน
3. เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัด สุราษฎร์ธานี สำหรับที่เขื่อนเชี่ยวหลานแห่งนี้มีทั้งความสวยงามและความโรแมนติก และยังมีกิจกรรมที่ให้คู่รักทำร่วมกันมากมาย แถมตอนเย็นยังได้กินอาหารริมน้ำท่ามกลางแสงจันและดวงดาวที่เต็มท้องฟ้าที่จะหาดูไม่ได้ในกรุงเทพ สำหรับใครที่ชื่นชอบความท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ การพายเรือคายัก รับรองมาที่นี่มีความสุขล้วนล้วนแน่นอน
4. นอนแพ ริมน้ำแคว จังหวัด กาญจนบุรี  สำหรับใครที่อยากนอนฟินฟังเสียงน้ำไหลท่ามกลางต้นไม้ต้นใหญ่มากมาย และอยากรับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้าที่ตื่นขึ้นมา การมานอนแพ ริมแม่น้ำก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย สำหรับที่จังหวัดกาญจนบุรี ไม่ได้ใกล้จากกรุงเทพเลย ขับรถแค่เพียง 2 ชั่วโมงกว่ากว่าก็ถึงแล้ว  สามารถพาคู่รักมานั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน นั่งกินอาหารริมน้ำ ท่ามกลางความเขียวของต้นไม้ และความเย็นของสายน้ำ รับรองไปแล้วติดใจทุกรายแถมยังมีกิจกรรมให้คู่รักได้ทำด้วยกันมากมาย และสามารถเลือกได้ว่าจะเอาที่พักแบบหรูหรา หรือจะเอาที่พักแบบประหยัดก็มีหลากหลาย
5. เกาะกูด จังหวัด ตราด สำหรับทะเลที่นี่มีความสวยงามและน้ำใสมาก  คู่รักหลายคนมักจะพากันเดินทางมาพักผ่อน ดังนั้นทีนี่จึงมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก หากใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวอาจจะไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่ แต่หากครู่รักคู่ไหน ที่ชอบเที่ยวโดยมีเพื่อนเที่ยวเยอะแยะหลากหลายที่นี่รองรับความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี และที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำหลากหลายทั้งดำน้ำดูปะการังและเดินเกาะแขนกันเดินเล่นริมหาด

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะสถานที่ท่องเที่ยวทีแสนจะโรแมนติกที่น่าลองไปเที่ยวดูสักครั้งมีถูกใจใครบ้างหรือเปล่า หากใครที่ยังไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหนก็ลองเอาโปรแกรมที่แนะนำนี้ทดลองเที่ยวกันดูนะคะไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

     เชื่อว่าหลายคนคงจะต้องทำงานกันหนักและเชื่อว่าหลายคนคงไม่ค่อยที่จะมีเวลาไว้พักไว้เที่ยว สันนี้เราจะมาแนะนำที่เที่ยวใกล้กรุงเทพที่จังหวัดสระบุรี ไปเช้าเย็นกลับไม่ต้องเสียงเงินเยอะด้วย 1000 เดียวก็เที่ยวได้ 

1. สวนพฤกษศาสตร์พุแค ที่นี้จะมีพวกต้นไม้เอาไว้ตกแต่งบ้าน พวกต้นไม้สวยสวยต้นไม้มงคลที่นี้จะมีเยอะมากแต่เขาไม้ได้มีไว้เพื่อที่จะขายแต่มีไว้ให้คนได้ศึกษาเกี่ยวกับต้นไม้ชนิดต่างต่างและที่นี้อากาศไม่ร้อนมากเลยทำให้มีคนเข้ามาเที่ยวที่นี้ก็เยอะพอสมควรอยู่ ซึ้งที่นี้ในทุกทุกวันเสาร์จะมีกิจกรรมพิเศษซึ้งกิจกรรมนี้เรียกว่า ตลาดในสวน ชิมเพลิน  เดินไพร ซึ้งกิจกรรมนี้ที่นี้จะมีนักดนตรีมาเล่นเพลงเพราะๆให้เราฟังฟังเพลงไปก็ดูของไปแถมในวันเสาร์ยังมีร้านขายของกินมาเปิดอีกด้วยต้องขอย้ำว่ามีเฉพาะในวันเสาร์เท่านั้นนะคะ 
2. น้ำตกสามหลั่น ที่นี้ตั้งอยู่ไม่ไกลมากจากที่อุทยานแห่งชาติ ซึ้งตั้งอยู่ห่างรวมๆประมาณ 300 เมตร ซึ้งน้ำตกที่นี้ถือว่าไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่ประมาณกลางๆกำลังสวย ซึ้งที่เรียกว่าน้ำตกสามหลั่นเพราะน้ำตกที่นี้มีทั้งหมด  3 ชั้น ซึ้งทุกๆชั้นความสูงก็ประมาณ 2 เมตร ซึ้งเมื่อมองดูรวมๆก็เป็นภาพที่สวยมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะในหน้าฝนจะมีพวกกล้วยไม้ป่าตั้งอยู่ใกล้ๆ ซึ้งถ้าเกิดว่าใครมาในช่วงหน้าฝนไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะไหลแรง เพรำที่นี้น้ำไม่ไหลแรงมากเล่นได้ไม่อันตราย ลองไปดูนะคะ
3. น้ำตกโกรกอีดก ที่นี้ก็ตั้งอยู่ในบริเวณของอุทยานเขาใหญ่ซึ้งที่นี้น้ำไหลแรงมากน้ำตกที่นี้จะมีทั้งหมด 7 ชั้น ซึ้งความสูงของที่นี้มีมากถึง 350 เมตรเลยทีเดียว เวลาน้ำไหลลงกระทบที่ก้อนหินในแต่ละชั้นจะมีเสียงดังก้องกังวาน ซึ้งในบริเวณรอบๆต้นไม้ใหญ่ๆขึ้นอยู่เต็มไปหมด ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศธรรมชาติๆ แนะนำไม่ให้ลงเล่นเพราะน้ำไหลแรงอยู่แนะนำให้ดูความงามของน้ำตกอย่างเดี๋ยวคุณสามารถเอาเสื่อมาปูนั่งเล่นดูน้ำตกสบายๆก็ได้ ใครสนใจก็ลองไปดูนะคะ

ทั้งสามแห่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่น่าใจไปเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งสามแห่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพเลย ใช้เวลาเดินทางไม่นาน สามารถไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้อย่างสบายโดยที่ไม่ต้องขับรถแบบเร่งรีบมากนัก ขากลับก็แวะซื้อขนมกระหรี่พับ ขนมดังของเมืองสระบุรี

ซึ่งตอนนี้มีหลายไส้มาก ที่สำคัญมีไส้ปูอัดหิมะ และไส้ยำสาหร่ายด้วย อร่อยมากมาก เหมาะกับการซื้อเป็นของฝากอย่างยิ่ง

น้ำตกเจ็ดสาวน้อยเป็นน้ำตกที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติจังหวัดสระบุรี

ที่นี่จะมีน้ำตกทั้งหมดจำนวนเจ็ดชั้นแต่ละชั้นมีขนาดที่ไม่สูงมากนักส่วนใหญ่จะสูงประมาณ 2-5 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวได้ทุกชั้นตั้งแต่ชั้นที่1 ไปจนถึงชั้นที่ 7 และตลอดทางก็จะมีป้ายปักเตือนจากเจ้าหน้าที่รักษาอุทยาน เช่น ทางลื่นให้ระวัง หรือจุดนี้ห้ามกระโดดเล่นน้ำ  หรือแม้แต่ข้างหน้ามีโขดหิน ซึ่งหากนักท่องเที่ยวทำตามป้ายเตือนก็จะปลอดภัยไม่เกิดอันตรายใดๆ

ซึ่งหากเราจะเดินสำรวจน้ำตกแต่ละชั้นทางเจ้าหน้าที่ก็เตรียมทางเดินที่เทปูนเอาไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้เดินสำรวจตั้งแต่ชั้น 1 จนถึงชั้น 5 ส่วนที่ชั้น 6กับชั้น 7 ทางเดินจะยังเป็นทางดินธรรมดา ยังไม่เทปูน สำหรับน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเป็นน้ำตกที่มีต้นน้ำไหลมาจากฝั่งทางป่าในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ทุกเกือบทุกชั้นจะมีสั่งห้ามเล่นน้ำเฉพาะที่ชั้นสามเท่านั้นเพราะที่ชั้นนี้น้ำจะลึกมาก

และเคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยจึงมีการห้ามเล่นน้ำ แต่สำหรับที่ชั้นอื่นๆ นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำได้หมด ซึ่งชั้นที่มีความสวยงามมากที่สุดจะอยู่ที่ชั้น 4 เป็นชั้นที่น้ำตกจะไหลตกมาลงจากที่สูง คนจะนิยมเดินขึ้นมาเล่นที่ชั้นนี้กันมาก

ส่วนใครที่อยากได้ความสงบก็สามารถเดินขึ้นไปที่ชั้น 6กับ7 ได้แต่ชั้นนี้ผู้คนจะไม่ค่อยลงเล่นน้ำเพราะน้ำจะค่อนข้างไหลแรง สำหรับน้ำตกเจ็ดสาวน้อยทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นคนเข้ามาค้นพบ เนื่องจากมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจป่าแล้วมาเจอกับน้ำตกที่มีความสวยงามจำนวนทั้งหมด 7 ชั้น

ซึ่งน้ำตกนี้อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านที่มีชื่อว่าบ้านสาวน้อย ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงทำการตั้งชื่อน้ำตกนี้ว่าน้ำตกเจ็ดสาวน้อย

ซึ่งเป็นการตั้งตามชื่อของหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับน้ำตกแล้วเอามารวมกับจำนวนของชั้นน้ำตกทั้งหมดนั่นเอง สำหรับที่น้ำตกเจ็ดสาวน้อยนี้จะมีพื้นที่โดยรอบเป็นป่าซึ่งจะมีทั้งต้นไม้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และมีทั้งต้นไม้ที่คนนำมาปลูกเพื่อเป็นการปลูกป่าเพื่อทดแทนจากที่มีคนเคยเข้ามาตัดไม้ทำลายป่าไป

ซึ่งพื้นที่บางส่วนในเขตของน้ำตกเจ็ดสาวน้อยอยู่ในโครงการปลูกป่าถาวร ที่เป็นโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่  9 เมือครั้งที่ขึ้นครองราชย์ครบ 50 ปีด้วย และหากใครที่ไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็อย่าลืมไปเที่ยวจุดชมวิวตรงสะพานแขวนข้ามน้ำตกกันด้วยนะคะเพราะเป็นจุดที่จะสามารถเห็นความสวยงามของน้ำตกที่ชั้น 1-4 ได้อย่างชัดเจน