หมวดหมู่: ข่าวสังคมทั่วไป

          เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานถึง 15 ปีจนในที่สุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถตามจับกุมตัวคนร้ายได้ครบซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมปีพศ 2548 สำหรับเรื่องราว 15 ปีที่ผ่านมานี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนางสาวก้อยอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น

เป็นพนักงานขายรถซึ่งถูกเพื่อนร่วมงานของเธอนั้นออกมาเลยบอกว่าจะแนะนำลูกค้าให้รู้จักก่อนจะถูกหลอกพาเข้าโรงแรมและถูกเพื่อนพนักงานด้วยกันพร้อมกับคนอื่นๆอีก 3 คนช่วยกันจับมัดและรุมข่มขืนหลังจากที่ข่มขืนเธอเสร็จเรียบร้อยแล้วผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนนั้น

ยังได้พากันเอาเชือกมามัดคอเธอเพื่อหวังฆ่าเธอให้ตายหลังจากที่เธอสรุปแล้วทั้งสามคนก็พากันขับรถยนต์ของเธอไปยังสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยของจังหวัดลำปางหลังจากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้เดินทางไปซื้อน้ำมันเพื่อหวังที่จะทำลายศพของนางสาวก้อยและทำลายซากรถยนต์โดยพวกเขาได้เอาน้ำมันราดไปที่รถแล้วจุดไฟเผาหลังจากนั้น

ก็พากันดันลดให้ตกลงไปในแม่น้ำซึ่งระหว่างที่รถกำลังไหลลงไปในน้ำนั้นเองบังเอิญว่านางสาวก้อยนั้นได้ฟื้นขึ้นมาเนื่องจากว่าเธอแค่เพียงสบตาเท่านั้นเธอจึงได้พยายามตะเกียกตะกายที่จะช่วยชีวิตตนเองด้วยการว่ายน้ำเข้าฝั่งแต่เมื่อคนร้ายทั้ง 3 คนนั้นเห็นว่านางสาวก็ยังไม่ตายพวกมันจึงใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่นางสาวก็อีก 1 นัดจนทำให้นางสาวก้อยนั้น

เสียชีวิตทันทีหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนต่างก็พากันหลบหนีซึ่งแน่นอนว่าในช่วงที่เป็นข่าวครึกโครมในปี 2548 นั้นคนร้ายทั้ง 3 คนได้ถูกจับกุมตัว 2 คนนั่นก็คือนายเชษฐาแล้วก็นายสุวิทย์แต่ยังมีคนที่หลบหนีได้อีก 1 คนก็คือนายสุพจน์ซึ่งตัวนายสุพจน์เองนี้คือเพื่อนที่ทำงานของนางสาวก้อยที่เป็นคนหลอกลวงนางสาวก้อยไปให้เพื่อนข่มขืนนั่นเอง

โดยเพื่อนของนายสุพจน์ที่ถูกจับ 2 คนแรกให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านายสุพจน์มาชักชวนให้ร่วมกันกระทำผิดในครั้งนี้เนื่องจากว่าไม่พอใจที่นางสาวก้อยนั้นขายรถยนต์ได้แล้วไม่แบ่งเงินให้ใช้เพราะนายสุพจน์เป็นคนแนะนำลูกค้าให้กับนางสาวก้อยต้องการมีส่วนแบ่งร่วมเมื่อนางสาวก้อยไม่ยอมแบ่งเงินให้ใช้จึงทำให้ไม่พอใจและวางแผนที่จะฆ่านางสาวก้อย

โดยมีเพื่อนทั้งสองคนคอยช่วยและนายสุพจน์ก็สามารถแบบนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาอย่างยาวนานถึง 15 ปีด้วยกันจนในที่สุดในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแถลงการณ์ว่าสามารถจับกุมนายสุพจน์ได้แล้วโดยสามารถจับได้ที่จังหวัดเชียงรายที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง

ซึ่งเป็นสิ่งที่สิ้นสุดการรอคอยของญาติของนางสาวก้อยโดยแม่ของนางสาวก้อยออกมาบอกถึงเรื่องนี้ว่ารู้สึก ตำรวจในครั้งนี้มากถึงแม้จะยาวนานถึง 15 ปีแต่ในที่สุดลูกสาวของเธอก็สามารถนอนตายตาหลับได้แล้วเพราะสามารถจับคนร้ายได้ครบทุกคนแล้วนั่นเอง

ทางแม่ค้าบอกว่าจริงๆแล้วจะมีราคาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศและคนไทยแยกต่างหากสำหรับกระเพราของคนไทยจะคิดแค่ราคา 80 บาทเท่านั้นแต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจะราคา 150 บาท

ซึ่งทางแม่ค้าได้บอกกับทางนักข่าวว่าคนไม่รู้ว่าคนที่มาสั่งซื้อกระเพราใส่ไข่คนนั้นเป็นคนไทยเพราะผู้หญิงคนนั้นก็ดูท่าทางจะเป็นเหมือนฝรั่งเพียงเพราะเธอย้อมผมสีทองและครั้งแรกเค้าบอกว่าเพราะผู้หญิงคนนั้นไม่ได้บอกว่าเป็นคนไทยเธอจะคิดราคา 150 บาท

แต่สุดท้ายก็ปรับความเข้าใจกันได้แม่ค้าจะบอกว่าเดี๋ยวจะลดให้เป็นเหมือนราคาปกติคิดแค่แตะ 10 บาทซึ่งทางผู้หญิงคนนั้นก็จ่ายไป 80 บาทจริงๆแต่เมื่อกลับถึงบ้านก็ได้โพสต์ว่าตนไปกินกระเพราใส่ไข่ที่ร้านร้านหนึ่งแถวๆบ้านกระเพราใส่ไข่จานเดียวยังคิด 150 บาท

เธอไม่ได้บอกให้ทั่วถึงว่าใช้แม่ค้าให้จ่ายราคา 80 บาทเหมือนคนอื่นเพียงแค่บอกว่ากระเพราจานเดียวคิดราคา 150 บาท หลังจากที่ทางลูกค้าที่สั่งซื้อกระเพราใส่ไข่นั้นลงไปโพสเรื่องราวใน Facebook นั้นอยากให้มีลูกค้ามาที่ร้านมีน้อยลงและทำให้มีหลายๆ

คนมาต่อว่าแม่ค้าบอกว่าคิดราคาแพงเกินไปอย่างนี้เขาเรียกว่ารีดไถกันชัดๆเธออ้างว่าเดี๋ยวนี้อะไรๆก็แพงไปหมดน้ำมันก็แพงค่าเช่าที่ก็แพงทำให้เธอต้องปรับราคาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศสูงขึ้นกว่าปกติ ทำมาให้ก่อนที่จะมีโรค covid 19ระบาดทำให้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่ร้านขายกระเพรา

แถวประตูน้ำมากนักเพราะกลัวว่าจะถูกคิดราคาแพงแบบนี้ทำให้ทางร้านขายไม่ดีและได้แจ้งกับทางนักข่าวว่าเธอคิดราคา 80 บาทแล้วจริงๆแต่สุดท้ายทางลูกค้าคนนั้นก็เอาไปโพสต์อยู่ดีทำให้มีลูกค้ามาร้านของเธอน้อยมากจนแทบจะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าที่อยู่แล้ว

ก่อนที่ทางลูกค้าจะมาโพสต์เรื่องราวของการขายราคาแพงระหว่างคนไทยและระหว่างชาวต่างชาตินั้นตัวเองยอมรับว่าตัวเองคิดราคาแพงกับชาวต่างชาติมากกว่าคนไทยจริงๆแต่ณตอนนี้เธอได้ยกเลิกการกระทำแบบนั้นไปแล้ว

และสัญญาว่าต่อไปนี้จะราคาเท่าๆกันทั้งคนต่างประเทศและคนไทย ทางร้านค้าได้บอกอีกว่าตอนนี้ตอนได้เปลี่ยนแปลงแล้วและขอบอกว่าถ้าใครมากินแล้วคิดว่ามันไม่อร่อยแล้วมันไม่อร่อยจริงๆแล้วก็ทางร้านจะไม่ให้คุณต้องจ่ายแม้แต่บาทเดียวและจะทำเมนูให้ใหม่โดยที่ไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียวกลับมากินได้ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยไม่ต้องห่วงเรื่องราคาเพราะตนจะไม่โก่งราคาขึ้นมากกว่านั้นอีกต่อไป 

เปิดภาพคนร้ายปล้นร้านทองที่ลพบุรีและยิงคนตายรวมทั้งหมด 5 ศพวอนคนในสังคมช่วยแจ้งเบาะแส

                     จากกรณีที่มีคนร้ายเป็นชายใส่เสื้อดำกางเกงลายทหาร ถือปืนเก็บเสียงเข้ามาในห้างโรบินสันแล้วปล้นร้านทอง ได้ทองไปเป็นจำนวนมากและที่สำคัญโจรรายดังกล่าวยังได้ทำการยิงปืนใส่ รปภ. ที่ปฎิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยภายในห้างและยิงใส่ประชาชน

ที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของภายในห้างจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและล้มตายกันเป็นจำนวนมากซึ่งหนึ่งในนั้นมีเด็กอายุเพียง 2-3 ขวบที่มาเดินซื้อของภายในห้างโรบินสันพร้อมกับคุณแม่รวมอยู่ด้วย ซึ่งเด็กคนดังกล่าวคือหนึ่งในผู้เสียชีวิต

เนื่องจากในเวลาที่โจรเข้าปล้นร้านทางเด็กกับแม่เดินผ่านมาทางนั้นพอดี โดยตอนนี้ตามสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อเว็บไซต์ออนไลน์ หรือสื่อทางทีวีต่างก็พากันเผยแพร่คลิปนาทีที่โจรเข้าปล้นร้านทางและพยายามซูมให้เห็นรูปร่างลักษณะของโจรให้มากที่สุดเพื่อที่ประชาชนคนไหนดูข่าวแล้วพอจะสามารถจดจำได้ว่าคนลักษณะดังกล่าวเหมือนใครก็สามารที่จะแจ้งเบาะแสได้ที่191 ตลอด 24 ชั่วโมง

ซึ่งคดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่สะเทือนขวัญของคนไทยทั้งประเทศมาก ยิ่งภาพที่แม่กอดศพลูกร้องไห้ยิ่งสร้างความสะเทือนใจแก่ทุกคนที่ได้เห็น ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกันทุกที่ เพื่อตามจำคนร้ายคนนี้มาลงโทษให้ได้ ซึ่งมีคำสั่งโดยตรงมาจากทางบิ๊กแป๊ะมาแล้วว่าหากคนร้ายขัดขืนการจับกุมก็สามารถจับตายได้เลย

          สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเวลาที่ห้างใกล้จะปิดแล้วมีคนเห็นเหตุการณ์เล่าว่า อยู่ๆก็มีชายชุดดำใส่ไอ้โม่งปิดหน้าปิดตาเดินสะพายกระเป๋าเข้ามาไปในร้ายทองเสร็จแล้วก็เอาปืนยิงใส่พนักงานที่อยู่ในร้านทองทันที เป็นเหตุให้พนักงานคนดังกล่าวเสียชีวิตทันทีและคนร้ายยังเขาปืนยิงกราดไปทั่วทำให้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นพากันวิ่งหนีหลบกระสุนปืนกันจ้าระหวั่น

และในช่วงเวลานั้นเองคนร้ายก็กวาดเอาทองที่วางขายอยู่ในร้านใส่กระเป๋าไป  ซึ่งตอนที่กำลังมีการยิงกันในร้านทองทาง รปภ. ของห้างต่างก็เข้ามาเพื่อระงับเหตุการณ์และเมื่อคนร้ายเห็นก็ได้ยิ่งปืนใส่มาทาง รปภ. ทำให้มีเจ้าหน้าที่ รปภ. เสียชิวิตเพิ่มอีกด้วย

ซึ่งในระหว่างนี้คนร้ายก็ยิงกราดไปทั่วเพื่อเปิดทางให้ตัวเองได้ขี่จักรยานยนต์เพื่อหลบหนีไป ซึ่งในขณะนี้ตำรวจทั้งจังหวัดลพบุรีกำลังประสานงานกันปิดเมืองลพบุรีเพื่อตามหาตัวคนร้ายมาลงโทษแต่ก็ยังไม่มีเบาะแสใด ๆ หากคนพอจะรู้เบาะแสให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลย คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว-แดง