ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมันจังหวัดเชียงราย

  ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมัน   เชื่อว่าใครหลายคนคงไม่คุ้นหูหรืออาจจะไม่เคยได้ยินชื่อชาน้ำมันมาก่อนนอกจากนี้เชื่อว่าหลายคนยังมีความสงสัยได้ว่าชาน้ำมันเกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มประเภทชาหรือไม่และเราสามารถที่จะดื่มชาน้ำมันได้หรือไม่กันอีกด้วย ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของชาน้ำมันซึ่งเราจะแนะนำไปเที่ยวที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันที่อยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย

    สำหรับชาน้ำมันนั้นใดชื่อว่าเป็นน้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออกคือน้ำมันที่ได้จากต้นชาน้ำมันสำหรับในประเทศไทยนั้นมีการเพาะปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คาเมเลีย โอลิเฟร่า  ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้มาจากประเทศจีนนั่นเอง 

     สำหรับการเพาะปลูกชาน้ำมันในประเทศไทยนั้นได้มีการศึกษาธรรมความรู้ความเข้าใจทำการวิจัยจนสามารถเข้าใจต้นปาล์มน้ำมันแห่งนี้ได้แล้วจึงถูกนำมาปลูกที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมันที่จังหวัดเชียงรายโดยมีการสร้างศูนย์พัฒนาชาน้ำมันและศูนย์วิจัยชาน้ำมันแห่งนี้ขึ้นในช่วงประมาณปีพศ 2554 ภายใต้การดูแลของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี

      ที่นี่ปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากซึ่งมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวนั้นเข้าไปเยี่ยมชมภายในศูนย์วิจัยซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพอนามัยของตนเองนั้นจะเดินทางมาเยี่ยมชมศูนย์วิจัยแห่งนี้

โดยที่นี่นั้นจะมีการผลิตน้ำมันจากเมล็ดพืชน้ำมันอื่นๆซึ่งมีขนาดพื้นที่ทั้งหมด 150 ไร่ด้วยกันในพื้นที่ทั้งหมดนี้ก็จะมีการปลูกต้นชาน้ำมันเพื่อนำมาพัฒนาและทำการวิจัยและออกผลิตภัณฑ์ออกขายสู่ตลาด

    สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้จากการมาชมศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันแห่งนี้นั้นนักท่องเที่ยวจะสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ในราคาพิเศษและดูขั้นตอนการผลิตต่างๆได้นอกจากนี้ภายในพื้นที่นั้นยังมีร้านอาหารที่ชื่อว่าเมล็ดซึ่งเป็นร้านอาหารที่สมเด็จพระเทพไม่มีการตั้งชื่อร้านให้ที่นี่นั้นจะมีการนำเสนออาหารเหนือสไตล์โมเดิร์นนอกจากนี้อาหารส่วนใหญ่ยังมีการใช้ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันชามาเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารอีกด้วย   

         อาหารที่ร้านอาหารเมล็ดชาแห่งนี้นั้นรสชาติอาหารนั้นค่อนข้างกลมกล่อมแล้วถูกใจนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเลยทีเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่เป็นพวกขนมหวานจะมีการนำความคิดสร้างสรรค์มาประกอบอาหารนอกจากจะหน้าตาน่าทานแล้วรสชาติยังอร่อยและมีผลดีต่อสุขภาพอีกด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ขึ้นชื่อของร้านนี้ก็คือภูเก็ตเบคอนรวมถึงขนมหวานก็จะเป็นไอศครีมอัญชันโยเกิร์ต  

         ซึ่งในแต่ละวันนั้นจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกพื้นที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่นักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้นแม้แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก่อนและมาเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันแห่งนี้  ดังนั้นบอกได้เลยว่าถ้าหากใครเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงรายแล้วไม่แวะมาเยี่ยมชมศูนย์วิจัยแห่งนี้ถือว่าพลาดอย่างยิ่งเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนดโดย.   ufabet เว็บหลัก

พาเที่ยวธารน้ำแข็งยักษ์ เปอริโต้ โมริโน ประเทศบราซิล

           สำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศในวันนี้จะยังคงแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ประเทศบราซิล พาเที่ยวธารน้ำแข็งยักษ์ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่จะแนะนำให้รู้จักกันในครั้งนี้นั้นเชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะยังไม่เคยไปเที่ยวและยังไม่เคยเห็นแต่ถ้าหากพูดถึงแล้วเชื่อว่าหลายคนคงอยากที่จะไปเห็นด้วยตนเองสักครั้งหนึ่งในชีวิตกับตาตัวเองเลยทีเดียวเพราะที่นี่นั้นมีความสวยงามมากๆและไม่ได้ว่าทุกประเทศจะมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้

      สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ก็คือ ธารน้ำแข็งยักษ์   เปอริโต้ โมริโน   นั่นเอง   สำหรับชื่อธารน้ำแข็งแห่งนี้นั้นเป็นการตั้งชื่อให้เกียรติตามชื่อของนักสำรวจที่มาค้นพบสถานที่แห่งนี้เป็นคนแรกนั่นก็คือฟรานซิสโก โมเรโน่ นั่นเอง  โดยธารน้ำแข็งแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส  

        สำหรับธารน้ำแข็งแห่งนี้มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 74 เมตรโดยมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 5 กิโลเมตรนอกจากนี้ถ้าหากวัดธารน้ำแข็งนี้จากระดับน้ำทะเลแล้วลึกลงไปในทะเลสาบจะพบว่ามีความลึกสูงถึง 170 เมตรเลยทีเดียวดังนั้นธารน้ำแข็งแห่งนี้จึงได้มีการจัดอันดับว่ามีความใหญ่โตมโหฬารเรียกว่าเป็นธารน้ำแข็งยักษ์ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งอันดับที่ 3 ของโลกนั่นเอง 

           สำหรับ ธารน้ำแข็งยักษ์   เปอริโต้ โมริโน   แห่งนี้นั้นเกิดขึ้นเองจากธรรมชาติไม่ได้มีการทำขึ้นจากฝีมือของมนุษย์แม้แต่นิดเดียวเป็นถ้ำน้ำแข็งที่มีความใหญ่โตมโหฬารและมีความสวยงามเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์มากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้อย่างไรก็ตามธารน้ำแข็งแห่งนี้นั้นก็จะมีการเคลื่อนไถลลงน้ำเรื่อยๆซึ่งเวลาที่เรามายืนชมวิวทิวทัศน์ตรงบริเวณธารน้ำแข็งแห่งนี้ก็จะได้ยินเสียงของน้ำแข็งไหลกระทบน้ำดังกระหึ่มเลยทีเดียวซึ่งการถล่มลงมานี้ชาวบ้านเรียกกันว่า  Ice Calving นั่นเอง 

          สำหรับที่ธารน้ำแข็งยักษ์   เปอริโต้ โมริโน   แห่งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวนั้นได้เข้าไปเล่นได้ด้วยซึ่งถ้าหากใครมีความกล้าแล้วอยากจะลองสักครั้งหนึ่งในชีวิตคุณสามารถที่จะเข้าร่วมกิจกรรมด้วยการเดินบนน้ำแข็งแห่งนี้ได้ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินเล่นบนน้ำแข็งแห่งนี้ได้นานประมาณ 1-2 ชั่วโมงโดยระหว่างที่เดินนั้นนักท่องเที่ยวก็จะเพลิดเพลินกับความสวยงามของธารน้ำแข็งและภูเขา

      ซึ่งจะขึ้นรอบบริเวณธารน้ำแข็งแห่งนี้โดยบนยอดเขานั้นก็จะมีหิมะขึ้นปกคลุมเต็มไปหมดเรียกได้ว่าไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหนคุณก็จะเห็นภูเขารายล้อมด้านบนเป็นหิมะขาวโพลนซึ่งให้ความสวยงามมากๆและถ้าใครชื่นชอบอากาศที่หนาวเย็นรับรองได้เลยว่ามาเที่ยวที่นี่คุณจะฟินมากเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย   UFABET เว็บหลัก