ป้ายกำกับ: UFABET เว็บหลัก

อัตราค่าแท็กซี่จากสนามบินโคจิ คุณวางแผนที่จะเยี่ยมชม Sabarimala ใน Kerala หรือไม่? ตรวจสอบอัตราค่าแท็กซี่จากสถานีรถไฟ Aluva

สนามบิน Kochi และ Ernakulam ไปยัง Pamba และ Nilakkal ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดไปยัง Sabarimala หากคุณไม่มีรถขับเอง ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม Sabarimala จาก Kochi คือการจ้างรถแท็กซี่ หากคุณมาจากนอกเมือง Kerala คุณสามารถไปถึงสนามบิน Kochi สถานีรถไฟ Aluva หรือป้ายรถเมล์ Ernakulam/Vyttila แล้วจ้างแท็กซี่

เมื่อคุณจ้างแท็กซี่จาก Ernakulam/Kochi แท็กซี่สามารถส่งที่ Pamba หรือที่ Nilakkal อย่างไรก็ตาม หลังจากลงที่ Pamba แล้ว

แท็กซี่จะไม่ได้รับอนุญาตให้จอดหรือรอที่ Pamba พวกเขาต้องกลับไปที่ Nillakkal และแยกจากกันที่นั่น ขณะกลับจาก Sabarimala คุณต้องไปถึง Pamba แล้วขึ้นรถบัสท้องถิ่นไป Nilakkal เพื่อขึ้นแท็กซี่

รถแท็กซี่ระหว่าง Nilakkal และ Pamba จะมีบริการรถโดยสารประจำทางระหว่าง Nilakkal และ Pamba แม้ว่า Pamba จะเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดไปยัง Sabarimala แต่หลายคนชอบลงที่ Nilakkal

แล้วขึ้นรถโดยสารสาธารณะเพื่อไปยัง Pamba และเดินทางกลับ แม้ว่าคุณจะมีตัวเลือกให้ไปส่งที่ Pamba ด้วยรถแท็กซี่ แต่ก็ไม่มีตัวเลือกให้ไปรับจาก Pamba ขณะเดินทางกลับ ทางเลือกเดียวของคุณคือขึ้นรถบัสไปยัง Nilakkal และพบกับคนขับแท็กซี่ของคุณที่นั่น

อัตราค่าแท็กซี่จากสถานีรถไฟ Ernakulam และสนามบิน Kochi ไปยัง Pamba, Nilakkal และ Sabarimala แม้ว่าคุณจะสามารถจ้างรถแท็กซี่ขับเองจากโคจิเพื่อไปยังซาบาริมาลาได้ แต่เมื่อคำนึงถึงปัญหาที่จอดรถและสภาพการจราจรอื่นๆ แล้ว การจ้างแท็กซี่พร้อมคนขับจะดีกว่า ค่าแท็กซี่ขึ้นอยู่กับประเภทของรถที่คุณเช่า หน่วยงานที่รับแท็กซี่ ระยะทางที่คุณต้องเดินทาง เป็นต้น

• สนามบินโคชินไป Nilakkal, Nilakkal ไปสนามบิน Cochin: Rs 7500 – Innova
• สนามบินโคชินไป Pamba กลับจาก Nilakkal ไปสนามบินโคชิน: Rs 8500 – Innova
• สนามบินโคชินไป Nilakkal, Nilakkal ไปสนามบิน Cochin Rs 6000 – Maruti DZire Sedan
• สนามบินโคชินไปยัง Pamba, Nilakkal ไปยังสนามบินโคชิน: Rs 6500 – Maruti DZire Sedan

เจ้าของรถแท็กซี่ส่วนตัวอาจเสนอส่วนลดให้คุณ คุณสามารถโทรหาโจเซฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในคนขับที่เชื่อถือได้ของเราเพื่อค้นหาอัตราค่าแท็กซี่ที่ถูกที่สุดไปยัง Sabarimala: หมายเลขติดต่อ: 8089472721,8089372721 อัตราส่วนลดแท็กซี่ที่นำเสนอโดยโจเซฟ สนามบินโคชินไป Nilakkal, Nilakkal ไปสนามบิน Cochin: Rs 6650 – Innova

• สนามบินโคชินไป Pamba กลับจาก Nilakkal ไปสนามบินโคชิน: Rs 7400 – Innova
• สนามบินโคชินไป Nilakkal, Nilakkal ไปสนามบิน Cochin Rs 4950 – Maruti DZire Sedan
• สนามบินโคชินไปยัง Pamba, Nilakkal ไปยังสนามบินโคชิน: Rs 5650 – Maruti DZire Sedan

โจเซฟสามารถรับคุณจากสถานที่ใดก็ได้ในและรอบ ๆ Ernakulam / Kochi เขาอาศัยอยู่ใกล้กับสนามบินโคจิ สถานีรถไฟ Aluva สถานีรถไฟ Ernakulam ป้ายรถเมล์ Vyttila และสามารถไปถึงสถานที่เหล่านี้ได้ภายใน 30 นาทีจากบ้านของเขาตัวเลือกใดดีกว่าที่จะไป

Sabarimala – รถเช่าโดยรถประจำทาง แท็กซี่ รถไฟ หรือขับเอง Pamba เป็นสถานีรถประจำทางที่ใกล้ที่สุดไปยัง Sabarimala การปีนเขาโดยผู้ศรัทธาเริ่มต้นจากสถานี Pamba ในช่วงฤดูแสวงบุญ KSRTC ที่ควบคุมโดยรัฐบาล Kerala ให้บริการรถ

โดยสารหลายสายไปยัง Pamba จากทุกเมืองใน Kerala หากคุณสะดวกในการเดินทางด้วยรถประจำทาง คุณสามารถประหยัดค่าแท็กซี่และเดินทางโดยรถบัสไปยังสถานีฐานของ Sabarimala ได้อย่างใกล้ชิด

หากคุณต้องการความสะดวกสบายมากขึ้นและต้องการหลีกเลี่ยงระบบขนส่งสาธารณะ ตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณคือรถเช่าขับเองหรือแท็กซี่แท็กซี่ที่  ufabet เว็บหลัก    ดำเนินการโดยคนขับ หากคุณมาจากรัฐอื่น คุณสามารถมาถึงเกรละได้โดยเที่ยวบิน (สนามบินนานาชาติโคชิน) หรือรถไฟ (สถานี Ernakulam, Kottayam, Chengannoor)

แล้วจ้างรถแท็กซี่ รถยนต์ขับเองอาจมีราคาถูกกว่ารถแท็กซี่ขับเองเล็กน้อย แต่คุณอาจประสบปัญหาที่จอดรถที่ Pamba แม้ว่ารถยนต์จะสามารถเข้าถึง Pamba เพื่อส่งผู้โดยสารได้ แต่ก็ไม่สามารถจอดรถไว้ที่นั่นได้ คนขับต้องวนรถกลับไปที่ Nilakkal แล้วจอดรถไว้ที่นั่น ทำให้รถขับเองไม่สะดวกเล็กน้อย รถยนต์ที่ควบคุม

โดยคนขับมีประโยชน์ในกรณีนี้ หากคุณจ้างแท็กซี่และคนขับ เขาจะส่งคุณที่ Pamba แล้วจอดรถที่ Nilakkal ขณะเดินทางกลับจาก Sabarimala คุณจะต้องขึ้นรถโดยสารสาธารณะจาก Pamba ไปยัง Nilakkal และขึ้นรถจากที่นั่น

       สำหรับคาเฟ่ที่เราจะพาไปรู้จักกันในครั้งนี้นั้นเป็นคาเฟ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งของจังหวัดนครปฐมเลยก็ว่าได้โดยคาเฟ่แห่งนี้นั้นถูกใจบรรดานักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

พาไปรู้จักคาเฟ่ ณ.คุณ จังหวัดนครปฐม  เพราะไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวแบบครอบครัวหรือการไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นกลุ่มคณะหรือแม้แต่การไปเที่ยวกับคู่รักก็เข้ากับบรรยากาศของคาเฟ่แห่งนี้ได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

         สำหรับคาเฟ่ที่เรากำลังพูดถึงนี้มีชื่อเรียกว่า คาเฟ่ ณ. คุณ   สิ่งที่นี่ลักษณะของการตกแต่งตัวคาเฟ่นั้นจะเน้นเป็นแบบสไตล์ฟาร์มเน้นความเป็นธรรมชาติและเน้นให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่คาเฟ่แห่งนี้ได้ใกล้ชิดกับความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  ดังนั้นถ้าหากใครอยากจะเที่ยวแบบบรรยากาศที่เป็นกันเองเป็นบรรยากาศที่เรียบง่ายเงียบสงบอากาศดี

อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นอย่างมากบอกได้เลยว่าควรจะแวะมาเช็คอิน คาเฟ่ ณ. คุณ จังหวัดนครปฐมแห่งนี้รับรองว่าจะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนเพราะใครก็ตามที่เคยเดินทางมาพักผ่อนที่คาเฟ่แห่งนี้ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าที่นี่นั้นให้บริการที่น่าประทับใจและถูกใจทั้งสไตล์การตกแต่งและกิจกรรมที่เตรียมไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

             สำหรับใครก็ตามที่อยากจะเดินทางไปชมความสวยงามคาเฟ่สไตล์ฟาร์มแห่งนี้นั้นคุณสามารถที่จะขับรถไปที่จังหวัดนครปฐม

โดยวิ่งตรงไปที่ตำบลไร่ขิงซึ่งเป็นตำบลเดียวกับวัดไร่ขิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังประจำจังหวัดนครปฐมนั่นเองโดยคาเฟ่แห่งนี้นั้นจะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงเวลา 09:00 น เป็นต้นไปและนักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินได้จนถึง 18:00 น ยังไงก็ตามที่คาเฟ่แห่งนี้จะเปิดให้บริการเฉพาะแค่วันเสาร์กับวันอาทิตย์เท่านั้นส่วนวันธรรมดาจะปิดให้บริการ

         ดังนั้นในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ถ้าหากว่านักท่องเที่ยวคนไหนยังไม่มีโปรแกรมที่จะเดินทางไปเที่ยวที่ไหนก็แนะนำว่าไปเที่ยวที่จังหวัดนครปฐมเพราะขับรถไปเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้วที่สำคัญนอกจากที่นักท่องเที่ยวจะได้ไปพักผ่อนกับบรรยากาศดีๆของจังหวัดนครปฐมไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดไร่ขิงแล้วก็ยังได้ไปรับประทานอาหารและเครื่องดื่มรสชาติดีที่คาเฟ่ ณ. คุณ ได้อีกด้วย 

          สำหรับที่ คาเฟ่ ณ. คุณ แห่งนี้จะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นการชมสวนสัตว์ขนาดย่อมที่ทางคาเฟ่ได้มีการสร้างเอาไว้ซึ่งภายในสวนสัตว์นี้จะมีทั้งม้าแคระรวมถึงฝูงเป็ดและนกยูงนอกจากนี้ยังมีลูกหมูและสัตว์อื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย

เต็มไปหมดรวมถึงทำคาเฟ่ได้มีการเตรียมสนามเด็กเล่นเอาไว้บริการเด็กๆที่มาเที่ยวกับผู้ปกครองอีกด้วยรับรองได้เลยว่าถ้าหากพาลูกหลานมาเที่ยวที่คาเฟ่แห่งนี้ไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ufabet เว็บหลัก

         แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจีน  สำหรับในบทความนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เลอค่ามากในประเทศจีนหมออย่างยิ่งกับการหาเวลาว่างเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆเหล่านี้ซึ่งสถานที่ที่เราจะพาไปรู้จักกันในครั้งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่าปีละ 1 ล้านคนเลยทีเดียวโดยสถานที่ที่เราจะพาไปรู้จักนั้นได้แก่ 

      Blue Moon Valley  

      สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่มณฑลยูนาน  อยู่ในโซนแชงกรีล่า สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางไปถึงภาพแรกที่เห็นจะต้องทำให้คุณรู้สึกประทับใจจนลืมหายใจเลยทีเดียวเพราะที่นี่นั้นงดงามเป็นอย่างมากโดย Blue Moon Valley รู้จักกันดีในนามของชาวจีนว่าที่นี่คือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวจีนส่วนใหญ่เรียกที่นี่ว่าหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน

      สำหรับการเดินทางขึ้นไปเที่ยวบนหุบเขาพระจันทร์สีเนื้อเงินนั้นนักท่องเที่ยวจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่มีความสวยงามซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เหล่านี้ได้แบบ 360 องศาเนื่องจากว่าจุดที่ชมวิวนั้นจะอยู่ยอดเขาสูงสุดซึ่งเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปยังจุดชมวิวดังกล่าวนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องมีการนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไป

      สำหรับสาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางไปเที่ยวที่Blue Moon Valley แห่งนี้ต่างก็รู้สึกประทับใจกับความงดงามของที่นี่จนตั้งฉายาว่าเป็นหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินนั่นก็เพราะว่า สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้นั้นบริเวณจุดชมวิวนั้น  UFABET เว็บหลัก    จะมีลักษณะคล้ายกับน้ำตกซึ่งมีหินเครื่องเรียงซ้อนกันเป็นลักษณะของเป็นแผ่นแล้วมีน้ำไหลกระทบกับโขดหินเป็นชั้นๆโดยมี background ด้านหลังเป็นหุบเขาด้านบนของหุบเขานั้นจะปกคลุมไปด้วยหิมะ

          Crescent Moon Lake 

        สำหรับอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความงดงามเลยถ้าไม่แพ้กันกับหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินนั่นก็คือทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวซึ่งที่นี่บอกได้เลยว่าเป็นผลงานที่คนจีนนั้นรังสรรค์ขึ้นมาท่ามกลางทะเลทรายโกบีโดยที่นี่นั้นมีการสร้างจุดชมวิวซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่มีการตกแต่งด้วยศิลปะสไตล์จีนแท้โบราณพื้นที่บริเวณโดยรอบอกร้องไปด้วยเนินทรายมองทางไหนก็เห็นทรายเวิ้งว้างเต็มไปหมดแต่จุดที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวก็คือใกล้กับจุดชมวิว

ซึ่งเป็นตัวอาคารที่มีการสร้างเอาไว้นั้นได้มีการสร้างทะเลสาบรูปคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวและทะเลสาบแห่งนี้นั้นน้ำจะใสมากเลยทีเดียวไม่ว่าอากาศจะเป็นอย่างไรลมจะพัดทรายรุนแรงมากแค่ไหนแต่น้ำในทะเลสาบนั้นไม่มีขุ่นและน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ก็ไม่เคยแห้งด้วยเช่นกัน

  ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมัน   เชื่อว่าใครหลายคนคงไม่คุ้นหูหรืออาจจะไม่เคยได้ยินชื่อชาน้ำมันมาก่อนนอกจากนี้เชื่อว่าหลายคนยังมีความสงสัยได้ว่าชาน้ำมันเกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มประเภทชาหรือไม่และเราสามารถที่จะดื่มชาน้ำมันได้หรือไม่กันอีกด้วย ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของชาน้ำมันซึ่งเราจะแนะนำไปเที่ยวที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันที่อยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย

    สำหรับชาน้ำมันนั้นใดชื่อว่าเป็นน้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออกคือน้ำมันที่ได้จากต้นชาน้ำมันสำหรับในประเทศไทยนั้นมีการเพาะปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คาเมเลีย โอลิเฟร่า  ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้มาจากประเทศจีนนั่นเอง 

     สำหรับการเพาะปลูกชาน้ำมันในประเทศไทยนั้นได้มีการศึกษาธรรมความรู้ความเข้าใจทำการวิจัยจนสามารถเข้าใจต้นปาล์มน้ำมันแห่งนี้ได้แล้วจึงถูกนำมาปลูกที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมันที่จังหวัดเชียงรายโดยมีการสร้างศูนย์พัฒนาชาน้ำมันและศูนย์วิจัยชาน้ำมันแห่งนี้ขึ้นในช่วงประมาณปีพศ 2554 ภายใต้การดูแลของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี

      ที่นี่ปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากซึ่งมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวนั้นเข้าไปเยี่ยมชมภายในศูนย์วิจัยซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพอนามัยของตนเองนั้นจะเดินทางมาเยี่ยมชมศูนย์วิจัยแห่งนี้

โดยที่นี่นั้นจะมีการผลิตน้ำมันจากเมล็ดพืชน้ำมันอื่นๆซึ่งมีขนาดพื้นที่ทั้งหมด 150 ไร่ด้วยกันในพื้นที่ทั้งหมดนี้ก็จะมีการปลูกต้นชาน้ำมันเพื่อนำมาพัฒนาและทำการวิจัยและออกผลิตภัณฑ์ออกขายสู่ตลาด

    สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้จากการมาชมศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันแห่งนี้นั้นนักท่องเที่ยวจะสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ในราคาพิเศษและดูขั้นตอนการผลิตต่างๆได้นอกจากนี้ภายในพื้นที่นั้นยังมีร้านอาหารที่ชื่อว่าเมล็ดซึ่งเป็นร้านอาหารที่สมเด็จพระเทพไม่มีการตั้งชื่อร้านให้ที่นี่นั้นจะมีการนำเสนออาหารเหนือสไตล์โมเดิร์นนอกจากนี้อาหารส่วนใหญ่ยังมีการใช้ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันชามาเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารอีกด้วย   

         อาหารที่ร้านอาหารเมล็ดชาแห่งนี้นั้นรสชาติอาหารนั้นค่อนข้างกลมกล่อมแล้วถูกใจนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเลยทีเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่เป็นพวกขนมหวานจะมีการนำความคิดสร้างสรรค์มาประกอบอาหารนอกจากจะหน้าตาน่าทานแล้วรสชาติยังอร่อยและมีผลดีต่อสุขภาพอีกด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ขึ้นชื่อของร้านนี้ก็คือภูเก็ตเบคอนรวมถึงขนมหวานก็จะเป็นไอศครีมอัญชันโยเกิร์ต  

         ซึ่งในแต่ละวันนั้นจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกพื้นที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่นักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้นแม้แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก่อนและมาเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันแห่งนี้  ดังนั้นบอกได้เลยว่าถ้าหากใครเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงรายแล้วไม่แวะมาเยี่ยมชมศูนย์วิจัยแห่งนี้ถือว่าพลาดอย่างยิ่งเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนดโดย.   ufabet เว็บหลัก

           สำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศในวันนี้จะยังคงแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ประเทศบราซิล พาเที่ยวธารน้ำแข็งยักษ์ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่จะแนะนำให้รู้จักกันในครั้งนี้นั้นเชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะยังไม่เคยไปเที่ยวและยังไม่เคยเห็นแต่ถ้าหากพูดถึงแล้วเชื่อว่าหลายคนคงอยากที่จะไปเห็นด้วยตนเองสักครั้งหนึ่งในชีวิตกับตาตัวเองเลยทีเดียวเพราะที่นี่นั้นมีความสวยงามมากๆและไม่ได้ว่าทุกประเทศจะมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้

      สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ก็คือ ธารน้ำแข็งยักษ์   เปอริโต้ โมริโน   นั่นเอง   สำหรับชื่อธารน้ำแข็งแห่งนี้นั้นเป็นการตั้งชื่อให้เกียรติตามชื่อของนักสำรวจที่มาค้นพบสถานที่แห่งนี้เป็นคนแรกนั่นก็คือฟรานซิสโก โมเรโน่ นั่นเอง  โดยธารน้ำแข็งแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส  

        สำหรับธารน้ำแข็งแห่งนี้มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 74 เมตรโดยมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 5 กิโลเมตรนอกจากนี้ถ้าหากวัดธารน้ำแข็งนี้จากระดับน้ำทะเลแล้วลึกลงไปในทะเลสาบจะพบว่ามีความลึกสูงถึง 170 เมตรเลยทีเดียวดังนั้นธารน้ำแข็งแห่งนี้จึงได้มีการจัดอันดับว่ามีความใหญ่โตมโหฬารเรียกว่าเป็นธารน้ำแข็งยักษ์ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งอันดับที่ 3 ของโลกนั่นเอง 

           สำหรับ ธารน้ำแข็งยักษ์   เปอริโต้ โมริโน   แห่งนี้นั้นเกิดขึ้นเองจากธรรมชาติไม่ได้มีการทำขึ้นจากฝีมือของมนุษย์แม้แต่นิดเดียวเป็นถ้ำน้ำแข็งที่มีความใหญ่โตมโหฬารและมีความสวยงามเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์มากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้อย่างไรก็ตามธารน้ำแข็งแห่งนี้นั้นก็จะมีการเคลื่อนไถลลงน้ำเรื่อยๆซึ่งเวลาที่เรามายืนชมวิวทิวทัศน์ตรงบริเวณธารน้ำแข็งแห่งนี้ก็จะได้ยินเสียงของน้ำแข็งไหลกระทบน้ำดังกระหึ่มเลยทีเดียวซึ่งการถล่มลงมานี้ชาวบ้านเรียกกันว่า  Ice Calving นั่นเอง 

          สำหรับที่ธารน้ำแข็งยักษ์   เปอริโต้ โมริโน   แห่งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวนั้นได้เข้าไปเล่นได้ด้วยซึ่งถ้าหากใครมีความกล้าแล้วอยากจะลองสักครั้งหนึ่งในชีวิตคุณสามารถที่จะเข้าร่วมกิจกรรมด้วยการเดินบนน้ำแข็งแห่งนี้ได้ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินเล่นบนน้ำแข็งแห่งนี้ได้นานประมาณ 1-2 ชั่วโมงโดยระหว่างที่เดินนั้นนักท่องเที่ยวก็จะเพลิดเพลินกับความสวยงามของธารน้ำแข็งและภูเขา

      ซึ่งจะขึ้นรอบบริเวณธารน้ำแข็งแห่งนี้โดยบนยอดเขานั้นก็จะมีหิมะขึ้นปกคลุมเต็มไปหมดเรียกได้ว่าไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหนคุณก็จะเห็นภูเขารายล้อมด้านบนเป็นหิมะขาวโพลนซึ่งให้ความสวยงามมากๆและถ้าใครชื่นชอบอากาศที่หนาวเย็นรับรองได้เลยว่ามาเที่ยวที่นี่คุณจะฟินมากเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย   UFABET เว็บหลัก