หมวดหมู่: ท่องเที่ยว

           สำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศในวันนี้จะยังคงแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ประเทศบราซิล พาเที่ยวธารน้ำแข็งยักษ์ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่จะแนะนำให้รู้จักกันในครั้งนี้นั้นเชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะยังไม่เคยไปเที่ยวและยังไม่เคยเห็นแต่ถ้าหากพูดถึงแล้วเชื่อว่าหลายคนคงอยากที่จะไปเห็นด้วยตนเองสักครั้งหนึ่งในชีวิตกับตาตัวเองเลยทีเดียวเพราะที่นี่นั้นมีความสวยงามมากๆและไม่ได้ว่าทุกประเทศจะมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้

      สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ก็คือ ธารน้ำแข็งยักษ์   เปอริโต้ โมริโน   นั่นเอง   สำหรับชื่อธารน้ำแข็งแห่งนี้นั้นเป็นการตั้งชื่อให้เกียรติตามชื่อของนักสำรวจที่มาค้นพบสถานที่แห่งนี้เป็นคนแรกนั่นก็คือฟรานซิสโก โมเรโน่ นั่นเอง  โดยธารน้ำแข็งแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส  

        สำหรับธารน้ำแข็งแห่งนี้มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 74 เมตรโดยมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 5 กิโลเมตรนอกจากนี้ถ้าหากวัดธารน้ำแข็งนี้จากระดับน้ำทะเลแล้วลึกลงไปในทะเลสาบจะพบว่ามีความลึกสูงถึง 170 เมตรเลยทีเดียวดังนั้นธารน้ำแข็งแห่งนี้จึงได้มีการจัดอันดับว่ามีความใหญ่โตมโหฬารเรียกว่าเป็นธารน้ำแข็งยักษ์ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งอันดับที่ 3 ของโลกนั่นเอง 

           สำหรับ ธารน้ำแข็งยักษ์   เปอริโต้ โมริโน   แห่งนี้นั้นเกิดขึ้นเองจากธรรมชาติไม่ได้มีการทำขึ้นจากฝีมือของมนุษย์แม้แต่นิดเดียวเป็นถ้ำน้ำแข็งที่มีความใหญ่โตมโหฬารและมีความสวยงามเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์มากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้อย่างไรก็ตามธารน้ำแข็งแห่งนี้นั้นก็จะมีการเคลื่อนไถลลงน้ำเรื่อยๆซึ่งเวลาที่เรามายืนชมวิวทิวทัศน์ตรงบริเวณธารน้ำแข็งแห่งนี้ก็จะได้ยินเสียงของน้ำแข็งไหลกระทบน้ำดังกระหึ่มเลยทีเดียวซึ่งการถล่มลงมานี้ชาวบ้านเรียกกันว่า  Ice Calving นั่นเอง 

          สำหรับที่ธารน้ำแข็งยักษ์   เปอริโต้ โมริโน   แห่งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวนั้นได้เข้าไปเล่นได้ด้วยซึ่งถ้าหากใครมีความกล้าแล้วอยากจะลองสักครั้งหนึ่งในชีวิตคุณสามารถที่จะเข้าร่วมกิจกรรมด้วยการเดินบนน้ำแข็งแห่งนี้ได้ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินเล่นบนน้ำแข็งแห่งนี้ได้นานประมาณ 1-2 ชั่วโมงโดยระหว่างที่เดินนั้นนักท่องเที่ยวก็จะเพลิดเพลินกับความสวยงามของธารน้ำแข็งและภูเขา

      ซึ่งจะขึ้นรอบบริเวณธารน้ำแข็งแห่งนี้โดยบนยอดเขานั้นก็จะมีหิมะขึ้นปกคลุมเต็มไปหมดเรียกได้ว่าไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหนคุณก็จะเห็นภูเขารายล้อมด้านบนเป็นหิมะขาวโพลนซึ่งให้ความสวยงามมากๆและถ้าใครชื่นชอบอากาศที่หนาวเย็นรับรองได้เลยว่ามาเที่ยวที่นี่คุณจะฟินมากเลยทีเดียว 

สนับสนุนโดย   UFABET เว็บหลัก

 วัดบางกุ้ง สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาไปรู้จักในวันนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงครามซึ่งที่นี่จะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบการทำบุญไหว้พระเพราะสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาไปรู้จักนั่นก็คือวัดบางกุ้งนั่นเองอย่างไรก็ตามวัดบางกุ้งนั้น

มีความเก่าแก่และมีมนต์ขลังเป็นอย่างมากโดยตามประวัติของวัดบางกุ้งแล้วระบุว่ามีการสร้างมาในสมัยของกรุงศรีอยุธยา  ซึ่งตามประวัติความเป็นมาและวัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความสำคัญอย่างมาก

         หากนักท่องเที่ยวคนไหนที่เคยเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดสมุทรสงครามและเคยเดินทางไปเที่ยวที่ตลาดน้ำอัมพวาเชื่อว่าอาจจะเคยแวะมาเที่ยวที่วัดบางกุ้งพระตลาดน้ำอัมพวากับ วัดบางกุ้ง นั้นอยู่ใกล้กันนิดเดียวซึ่งส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะแวะมาไหว้พระที่วัดบางกุ้งก่อนหลังจากนั้นก็จะไปช๊อปปิ้งที่ตลาดน้ำอัมพวา

         โดยที่นี่จะมีสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองจนถึงขนาดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของประเทศไทยอีกแห่งหนึ่งนั่นก็เพราะว่าที่นี่มีโบสถ์ซึ่งตัวโบสถ์นั้นถูกปกคลุมไปด้วยรากของต้นไม้โดยบอร์ดแห่งนี้มีชื่อเรียกว่าโบสถ์ปรกโพธิ์

สิ่งที่ทำให้ชาวบ้านอยากมาเห็นนั่นก็คือต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวน 4 ต้นขึ้นขนาดข้างรอบโบสถ์และรากของต้นไม้นั้นก็คลุมตัวบ่นจนไม่สามารถมองเห็นด้านนอกของตัวโบสถ์ ได้เลยเห็นเพียงแค่รากของต้นไม้ขึ้นคลุมเต็มไปหมดนั่นเอง

        สำหรับ ต้นไม้ทั้งสี่ต้นนั้นก็เป็นคนละชนิดกันอีกด้วยซึ่งมีทั้งต้นโพธิ์ต้นไทรรวมถึงต้นกร่างและต้นไกรทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดดึงดูดที่น่าสนใจมากที่เดียวที่สำคัญต้นไม้ทั้งสี่ต้นนั้นมีอายุเก่าแก่มานานเกินกว่าร้อยปีแล้วซึ่งตัวโบสถ์ปรกโพธิ์เองก็มีอายุเกินกว่า 200 ปีแล้วเช่นเดียวกันดังนั้นที่นี่จึงเป็นโบสถ์ที่มีต้นไม้ปกคลุมอายุเกินกว่า 200 ปีที่เดียวที่มีในประเทศไทย 

        ด้วยความแปลกของตัวโบสถ์ทำให้กลายเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่วัดแห่งนี้ซึ่งภายในวัดนั้นก็มีสถานที่ให้นักท่องเที่ยวนั้นได้เพลิดเพลินโดยวัดนั้นปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ไว้มากมายจึงค่อนข้างร่มรื่นและร่มเย็นคนที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาก็มักจะมาทำบุญไหว้พระและมานั่งสมาธิที่วัดแห่งนี้

      นอกจากนี้ภายในโบสถ์ปรกโพธิ์นั้นยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านโดยพุทธรูปดังกล่าวนั้นมีชื่อเรียกว่าหลวงพ่อพุทธะมณีนิลหรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่าหลวงพ่อดำนั่นเองซึ่งหลวงพ่อองค์นี้นั้นชาวบ้านบอกว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ

และเป็นพระพุทธรูปที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวคนไหนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ยาวนานสามารถเดินทางมาเที่ยวที่วัดบางกุ้งได้พระคุณจะได้เห็นจิตรกรรมฝาผนังที่มีความเก่าแก่และมีการเล่าเรื่องประวัติความเป็นมาของพระพุทธเจ้าให้ดูอีกด้วย 

สนับสนุนโดย.   Ufabet เข้าสู่ระบบ