ไหว้พระขอพรที่วัดล้านหอย

 ก่อนหน้านี้เคยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอนาดี ของจังหวัดปราจีนบุรี

เป็นรีสอร์ทดอกหงอนนาคมาแล้ว วันนี้จะพาเที่ยวไหว้พระ ซึ่งจุดเด่นของวัดแห่งนี้คือความอลังการของสถาปัตยกรรมที่ประดับด้วยเปลือกหอยหลายชนิด ทั้งหอยกาบ หอยจานใหญ่และหอยสังข์ ซึ่งไม่ว่าเราจะมองไปทางไหนก็จะเห็นว่ามีการนำเปลือกหอยมาประดับตกแต่งสวยงามเต็มไปหมดแม้แต่ชุดจีวรของพระพุทธรูปก็ยังมีการประดับไปด้วยเปลือกหอย

วันนี้เราขอแนะนำวัดรัตนเนตตาราม หรือวัดล้านหอย

หากใครที่ได้ไปเห็นวัดแห่งนี้คงต้องประหลาดใจกับการตกแต่งอย่างสวยงามจากเปลือกหอย ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัดล้านหอยเลยก็ได้  ซึ่งทำให้วัดล้านหอยถือว่าเป็นวัดอันซีนที่สวยงามเป็นอย่างมาก ที่สำคัญวัดนี้มีพระพุทธรูปมากมายให้ไหว้ขอพร รวมถึงพระนอนองค์ใหญ่มากๆก็มี

ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างสนใจเข้ามากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก

เมื่อมีการสอบถามประวัติความเป็นมาก็พบว่าผู้ที่ริเริ่มในการนำเปลือกหอยมาตกแต่งวัดก็คือท่านเจ้าอาวาสและพระลูกวัดของที่นี่นั่นเอง โดยท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อท่านออกมาบิณฑบาตท่านมักจะเห็นเปลือกหอยเป็นจำนวนมาก อย่างเช่นเปลือกหอยแครง

ซึ่งท่านสังเกตมาจนเป็นปีก็ไม่พบว่าเปลือกหอยแครงจะแตกหักเสียหายหรือผุพัง จึงปรึกษากับพระลูกวัดจะนำเปลือกหอยมาประดับหอพระ จึงได้ลงมือช่วยกันทำแล้วเมื่อทำเสร็จแล้วพบว่ามีความสวยงาม ชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดก็เลยนำเปลือกหอยชนิดต่างๆมามอบให้ ท่านจึงนำมาตกแต่งเพิ่มจนสามารถทำได้ทั้งวัดไม่ว่าจะเป็น อาคารหอพระแก้วสามฤดู หรือแม้แต่เหล่าพญานาค พระพุทธรูปทุกรูปที่ตั้งเรียงราย ท่านก็นำเปลือกหอยมาประดับทั้งหมด 

ซึ่งหากมองออกไปจะเห็นเปลือกหอยหลากหลายสีสันสวยงามเหมือนกับนำดอกไม้มาประดับ ซึ่งท่านเจ้าอาวาสบอกว่าสีของเปลือกหอยที่เห็นอยู่นั้นเป็นสีธรรมชาติของเปลือกหอยเลย ไม่ได้นำสีมาทาแต่อย่างใด เมื่อเยี่ยมชมความงามของวัดและไหว้พระขอพรเสร็จแล้ว เราสามารถเดินไปทางด้านหลังของวัดจะมีจุดให้ชมวิวธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย

ที่นี่มีการสร้างเป็นกระท่อมไม้ไผ่ และมีสะพานไม้และมีวิวทิวทัศน์สองข้างทางเป็นทุ่งนา สามารถนั่งพักผ่อนชมความสวยงามของธรรมชาติ 

             หากใครที่ชื่นชอบการขอพรไหว้พระและอยากชมศิลปะที่สวยงามแปลกตา ที่วัดรัตนเนตตารามหรือที่เรียกกันติดปากว่าวัดล้านหอยจะเป็นอีกหนึ่งวัดที่ควรค่าแก่การมาเยื่ยมชม

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

พาเที่ยว เกาะสมุย  หาดเฉวง หาดที่สวยงามที่สุดและมีแหล่งบันเทิงแบบครบครัน

             สำหรับนักท่องเที่ยวที่เคยไปเที่ยวที่เกาะสมุยกันมาแล้วย่อมไม่มีใครไม่รู้จักหาดเฉวง หาดที่สวยติดอันอันดับต้นๆของเมืองไทยและมีความยาวของหาดถึง 6 กิโลเมตรด้วยกัน

ซึ่งเมื่อมีชายหาดยาวขนาดนึ้จึงจำเป็นต้องมีการแบ่งโซนพื้นที่ของชายหาดออกเป็นสี่ส่วนเพื่อสะดวกในการดูแลด้านความสะอาดของชายหาดและที่สำคัญการดูแลด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเล่นที่หาดเฉวงแห่งนี้

สำหรับหาดเฉวงมีพื้นที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะสมุย แบ่งออกเป็น 4 เขตคือ หาดเฉวงเหนือ  หาดเฉวงกลาง หาดเฉวงใต้และสุดท้าย หาดเฉวงน้อย ซึ่งหาดเฉวงนี้เป็นชายหาดที่ขึ้นชื่อเรื่องของความยาวของหาดและความสวยงามเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวนิยมพากันมาพักผ่อนริมชายหาดที่นี่กันเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

นอกจากที่นี่ชายหาดจะยาวจนสุดลูกหูลูกตาแล้ว ยังมีพื้นทรายเป็นสีขาวละเอียด น้ำทะเลก็ใสมองลองไปเห็นสิ่งของใต้น้ำได้ดี ที่ชายหาดแห่งนี้น้ำไม่ลึกมากนักนักท่องเที่ยวจึงนิยมพากันมาเล่นน้ำที่นี่กัน และที่พักริมชายหาด หรือโรงแรมริมหาดก็มีการตกแต่งสวยงาม มีอาหารบริการรวมถึงสถานบันเทิงก็มีพร้อม ทำให้ที่นี่โด่งดังมากในหมู่นักท่องเที่ยวของชาวต่างประเทศ 

 เนื่องจากหาดแห่งนี้เป็นที่นิยมมาพักผ่อนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

จึงทำให้หาดแห่งนี้คึกคักมากทั้งเวลากลางวันและกลางคืน หากใครที่ชอบที่มีคนเที่ยวกันเยอะๆ ที่นี่ตอบโจทย์ของคุณได้เลยค่ะ ทั้งรีสอร์ท  โรงแรมจะมีนักท่องเที่ยวจองคิวเต็มตลอดทั้งปี ซึ่งความสวยงามของรีสอร์ทและโรงแรมจะอยู่ที่พอก้าวขาออกมานอกเขตโรงแรมก็เจอทะเลเลย

กลางคืนสามารถยืนมองทะเลจากที่พักให้บรรยากาศอีกแบบ เวลาที่แสงจันทร์ส่องลงมาที่ท้องทะเลและแสงจันทร์ไปกระทบกับพื้นทราย ทำให้แสงสวยงามมาก แต่หากใครที่ชอบแนวท่องเที่ยวแบบเงียบๆ อยากอยู่ส่วนตัวไม่ชอบความวุ่นวายที่นี่จะไม่เหมาะกับคุณมากเท่าไหร่ค่ะ 

เพราะสามารถบอกได้เลยว่า คนเยอะทั้งกลางวันและกลางคืนเลยทีเดียวสำหรับที่เกาะเฉวงแห่งนี้ ดังนั้นหากต้องการมาเที่ยวแบบเงียบๆค่อยๆสัมผัสกับความงดงามทางธรรมชาติ ฟังเสียงคลื่นซัดซาดโขดหินแบบเบาๆจะไม่มีให้เห็นค่ะ

        เพราะที่นี่กลางวันก็คึกคักเต็มไปด้วยคนฝรั่งและไทยทีชอบมานอนอาบแดด ส่วนกลางคืนก็มีการเปิดสถานบันเทิง เปิดร้านเหล้าอีกฝากฝั่งของถนนกันเลย เรียกได้ว่าราตรีไม่เคยหลับใหลสำหรับชายหาดแห่งนี้

Go Japan ตอนไหนดี ?

สำหรับใครที่กำลังต้องการไปเปิดหูเปิดตา เที่ยวต่างประเทศ และสนใจที่จะไปประเทศญี่ปุ่น

ประเทศที่มีคนพากันไปเที่ยวตลอดทั้งปี แต่เป็นการไปครั้งแรกยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปช่วงไหนดี เรามีคำแนะนำดีๆ มาฝากประกอบการตัดสินใจ ก่อนซื้อตั๋วเครื่องบิน มาลองดูข้อมูลกันก่อนได้เลยค่ะ

Japan หรือญี่ปุ่นเราสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู โดยที่ญี่ปุ่นจะมีทั้งหมด 4 ฤดูด้วยกัน ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ  ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งน่าเที่ยวทุกฤดูเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบอากาศแบบไหน 

          ฤดูใบไม้ผลิ ( เริ่มต้น เดือนมีนาคม ต่อเนื่องจนถึง เดือนพฤษภาคม )   ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตามถนนและสวนสาธารณะจะสวยงามมากเพราะจะมีดอกซากุระบานเต็มต้น มองไปทางไหนก็จะเห็นแต่สีของซากุระ เห็นแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น เหมาะกับการถ่ายรูปดอกซากะจะเริ่มบานตั้งแต่ภาคใต้ไปภาคเหนือ  และจะอยู่ได้ ประมาณ 7-10วัน ก็จะ อากาศในช่วงนี้จะเฉลี่ยอยู่ที่ 10-16 องศาเซลเซียส โดยในแต่ละปี ดอกซากุระจะบานเวลาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอุณหภูมิของแต่ละปี 

          ฤดูร้อน (เริ่มต้น เดือนมิถุนายน ยาวต่อเนืองจนถึง เดือนสิงหาคม )  เป็นช่วงเวลาของสีเขียว มองไปทางไหนจะเห็นสีเขียวของต้นไม้เต็มไปหมด  เวลานี้ที่ญี่ปุ่นจะถือว่าร้อน แต่สำหรับเราคนไทยถ้าไปเที่ยวจะไม่รู้สึกถึงความร้อนเลย เพราะอากาศจะเย็นกว่าบ้านเรามาก  อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 24-28 องศาเซลเซียส ถึงจะบอกว่านี่เป็นช่วงของ ฤดูร้อนแต่ก็มีฝนตกบ้างบางวัน และในช่วงเวลานี้ยังถือว่าเป็นช่วงฤดูของการปีนเข้า  ผู้คนจะเดินทางไปปีนเขาที่ภูเขาไฟฟูจิกันเป็นจำนวนมาก โดยจะไปในช่วงเดือน เดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม ใครชอบความท้าทาย สามารถไปทดลองกันได้ 

          ฤดูใบไม้ร่วง ( เริ่มต้นเดือนกันยายน ยาวต่อเนื่องจนถึง เดือนพฤศจิกายน )  เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม  เป็นเดือนที่น่าเพลิดเพลินกับบรรยากาศความเย็นสบาย ท่ามกลางสีสันของต้นไม้ ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้ม  แต่งเติมความอบอุ่นระหว่างผลัดเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาว ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ย 17-20 องศาเซลเซียส

          ฤดูหนาว ( เริ่มต้นเดือนธันวาคม ยาวต่อเนื่องถึง เดือนกุมภาพันธ์ )  นี่เป็นช่วงเวลาของคนชอบเล่นหิมะ ได้ใส่เสื้อกันหนาวสวย ( เมืองไทยจะไม่มีโอกาสแบบนี้ )  อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3-7 องศาเซลเซียส ในฤดูนี้จะมีผู้คนเป็นจำนวนมากต่างพากันไปเกาะฮอกไกโด ซึ่งจะอยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงนี้อากาศจะติดลบอยู่หลายเดือน ถ้าอยากได้ความเย็นแบบซะใจ แนะนำให้ไปเที่ยวช่วงนี้ได้เลย แต่ต้องระวังเรื่องอากาศและสุขภาพ อย่าให้หวัดกลายมาเป็นของฝากกลับมาด้วยหลังจากไปเที่ยวมานะคะ

ถ้าไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นตรงกับช่วงวันหยุดของคนญี่ปุ่น ถึงแม้ร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยวจะยังเปิดให้บริการตามปกติ

แต่จะมีคนเยอะมาก เพราะคนญี่ปุ่นเองก็จะออกมาเที่ยวในช่วงวันหยุดเหมือนกัน  โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีการหยุดยางต่อเนื่องหรือเป็นวันหยุดที่หยุดต่อจากเสาร์และอาทิตย์ คนจะเยอะมากเป็นพิเศษ ทำให้ต้องแย่งกันเดินทาง เพราะก็จะเหมือนกับคนไทย ที่วันหยุดยาวก็จะเดินทางออกไปต่างจังหวัด ทำให้ค่ารถไฟฟ้า หรือแม้แต่ค่าที่พักจะมีราคาแพงกว่า 

และที่สำคัญเวลาของไทยจะช้ากว่าที่ญี่ปุ่น 2 ชั่วโมง เช่น  ถ้าตอนนี้ประเทศไทยเป็นเวลา 09.00 .00 น.เวลาที่ญี่ปุ่นก็จะเป็น  11.00 น. นะจ๊ะ