แนะนำโรงแรมระดับ 5 ดาว ในเมืองอัมสเเตอร์ดัม InterContinental Amstel Amsterdam

สำหรับสถานที่ที่จะแนะนำในครั้งนี้นั้นจะเป็นสถานที่ที่จะเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศเนเธอร์แลนด์และได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอัมสเตอร์ดัมได้มีที่พักอาศัยซึ่งสถานที่ที่อยากจะแนะนำให้รู้จักในครั้งนี้นั้นเป็น  แนะนำโรงแรมระดับ 5 ดาว เลยทีเดียว

ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของความหรูหราและในเรื่องของการบริการที่ให้บริการระดับพรีเมี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้

           สำหรับที่พักที่เราอยากจะแนะนำให้รู้จักกันในครั้งนี้นั้นมีชื่อว่า  InterContinental Amstel Amsterdam เป็นโรงแรมที่มีการเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานซึ่งมีอายุเก่าแก่มานานเกินกว่า 150 ปีมาแล้วและแน่นอนว่าเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงของเมืองอัมสเตอร์ดัมเลยทีเดียวอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าโรงแรมนี้จะมีการเปิดมาอย่างยาวนานแต่สภาพทางภายนอกโรงแรมและภายในโรงแรมนั้นเรียกว่าหรูหรามีระดับเป็นอย่างมาก

     ซึ่งโรงแรมแห่งนี้นั้นจะมีการปรับปรุงบูรณะซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลาทำให้โรงแรมนั้นมีสภาพที่มีความใหม่และแน่นอนว่าวิวทิวทัศน์บริเวณด้านนอกของโรงแรมนั้นก็มีความสวยงามมากเนื่องจากว่าโรงแรมนั้นก่อสร้างอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Amtel ทำให้ห้องพักส่วนใหญ่นั้นจะสามารถมองออกไปนอกหน้าต่างและเห็นวิวของแม่น้ำรวมถึงวิวของเมืองอัมสเตอร์ดัมซึ่งเป็นวิวสวยๆทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน

    อย่างไรก็ตามด้านภายในของตัวโรงแรมนั้นก็มีความหรูหรามีระดับไม่แตกต่างกันเพราะมีการนำอุปกรณ์ที่ทันสมัยเป็นอุปกรณ์ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ได้เตียงนอนนุ่มสบายที่สำคัญได้มีการจัดห้องเอาไว้อย่างงดงามราวกับได้นอนในห้องของเจ้าหญิงกันเลยทีเดียวและแน่นอนว่าโรงแรมแห่งนี้นั้น

ไปมาสะดวกมากมาย  แนะนำโรงแรมระดับ 5 ดาว ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหนสามารถกลับมาที่โรงแรมแห่งนี้ได้ด้วยความสะดวกทั้งในเรื่องของการเดินทางและใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเนื่องจากว่าโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอัมสเตอร์ดัมนั่นเอง

       การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศนั้นก่อนที่เราจะมีการเดินทางเราควรจะมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมที่พักซึ่งการลงเลือกโรงแรมที่พักนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเพราะหากเราเลือกโรงแรมที่พักที่ไม่มีความปลอดภัยและอยู่ห่างไกลจากความเจริญการเดินทางไปมาระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวกับที่พักนั้นก็จะลำบากและจะทำให้เราเหนื่อยมากนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.   gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20

พาเที่ยว นครรัฐวาติกัน

       เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับนครรัฐวาติกัน กันอยู่บ่อยบ่อย 

เพราะที่นี่เมื่อใกล้ถึงช่วงปีใหม่ จะมีการถ่ายทอดเกี่ยวกับพิธีกรรมของศาสนาคริสต์ ที่มีสมเด็จพระสันตะปาปา  มาเป็นประธานในพิธีหรือบางคนอาจจะได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของสมเด็จพระสันตะปาปาซึ่งพระองค์จะอาศัยอยู่ที่นครรัฐวาติกันแห่งนี้  

         คุณรู้หรือไม่ว่านครรัฐวาติกันนั้นคือประเทศ   ประเทศหนึ่ง ซึ่งมีขนาดพื้นที่เพียงแค่ 0.44  ตารางกิโลเมตรเท่านั้น 

อาจกล่าวได้ว่าประเทศนี้เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กมากที่สุดในโลกเลยทีเดียวและที่นครรัฐวาติกันแห่งนี้มีพื้นที่อยู่ติดกับประเทศอิตาลีซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงโรมนั่นเองและด้วยขนาดพื้นที่ของประเทศที่มีความรักมากๆเล็กกว่าจังหวัดกรุงเทพมหานครของไทยเราไม่รู้ตั้งกี่เท่าด้วยซ้ำไปทำให้ประชากรของนครรัฐวาติกันนั้นมีเพียงแค่ประมาณหนึ่งพัน คนเท่านั้นเอง 

         สำหรับผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในนครรัฐวาติกันแห่งนี้เชื่อว่าหลายคนคงรู้กันดีนั่นก็คือ สมเด็จพระสันตะปาปานั่นเองสำหรับที่นครรัฐวาติกันแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนจากทั่วโลกให้ความนับถือเป็นอย่างมากเพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกถึงแม้ว่านครรัฐวาติกันแห่งนี้นั้นจะมีพื้นที่เล็กมากๆก็ตามแต่ว่าสถานที่ก่อสร้างแต่ละแห่งนั้นก็มีความสวยงามและทรงคุณค่าเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเรียกได้ว่าผลงานศิลปะชิ้นเอกนั้นมารวมกันอยู่ที่นครรัฐวาติกันแห่งนี้เลยก็ว่าได้

         ดังนั้นถ้าหากใครมีโอกาสที่ได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอิตาลีก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่นครรัฐวาติกันแห่งนี้เพราะว่าใช้ระยะเวลาในการเดินทางไม่นานที่สำคัญมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกไม่ว่าจะเป็นมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์หรือแม้แต่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์รวมถึงพิพิธภัณฑ์วาติกัน

และยังมีวิหาร ซิสติน  นอกจากนี้คุณยังจะได้เห็นทหารชาวสวิสที่แต่งกายได้อย่างโดดเด่นเรียกว่าสวิสการ์ดซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกพากันหลั่งไหลเดินทางมาเยี่ยมชมความงดงามที่นครรัฐวาติกันแห่งนี้นั่นเอง 

        สำหรับที่นครรัฐวาติกันนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบผลงานด้านศิลปะประติมากรรมต่างๆเพราะส่วนใหญ่แล้วสถานที่ท่องเที่ยวนั้นจะเป็นโบสถ์กับวิหารซึ่งมีการออกแบบออกมาได้อย่างงดงามและเป็นเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่นั้นเป็นสถาปัตยกรรมในการออกแบบสิ่งก่อสร้างของกรุงโรมดังนั้นมาเที่ยวที่นี่คุณจะสามารถถ่ายรูปได้กับทุกมุมของนครรัฐวาติกันเลยทีเดียว

      สำหรับที่นครรัฐวาติกันแห่งนี้ไม่ได้มีประธานาธิบดีคอยดูแลและบริหารประเทศแต่จะเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาเท่านั้นที่จะบริหารประเทศนี้โดยพระองค์นั้นเป็นประมุขสูงสุดของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกนั่นเอง 

 

ขอขอบคุณ    sa gaming เข้าสู่ระบบ    ที่ให้การสนับสนุน

Gudauri ประเทศจอร์เจีย

            อย่างที่รู้กันดีว่าประเทศจอร์เจีย นั้นมีภูมิประเทศที่มีทั้งภูเขาและป่าไม้ที่ยังคงความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์เอาไว้ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจอร์เจียส่วนใหญ่นั้นจะไปสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก

และในขณะนี้ประเทศจอร์เจียก็กำลังกลายมาเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจในการที่นักท่องเที่ยวนั้นจะเดินทางเข้ามาเพื่อเพิ่มกับสถานที่ท่องเที่ยวดังนั้นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเมื่อมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศจอร์เจียนั่นก็คือ การเดินทางไปเล่นสกีที่ Gudauri นั่นเอง

         สำหรับที่ Gudauri  จะอยู่ระหว่างเมือง 2 เมืองด้วยกันนั่นก็คือเมือง Tbilisi กับเมือง Kazbegi  ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ที่เล่นสกีที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศของประเทศจอร์เจีย เลยทีเดียวในฤดูหนาวแต่ละปีนั้นนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ

กีฬาการเล่นเจ็ตสกีและอยากมาผจญภัยมาเล่นเจ็ตสกีกับบรรยากาศท่ามกลางหุบเขา ต่างก็พากันหลั่งไหลเดินทางมาที่รีสอร์ทชื่อดังแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก เพราะสถานที่แห่งนี้นั้นไม่ใช่เป็นเพียงแค่สถานที่สำหรับเล่นเจ็ตสกีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมีจุดชมวิวที่สวยงามมีสถานที่ให้ถ่ายรูปมากมายหลายมุมเลยทีเดียว

       นักท่องเที่ยวสามารถที่จะขึ้นไปบนภูเขาซึ่งมีความสูงชันโดยบนยอดภูเขานั้นคุณสามารถที่จะชมวิวทิวทัศน์บริเวณด้านรอบของรีสอร์ทแห่งนี้ได้แบบ 360 องศาในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะไปชมวิวของเหวที่มีความลึกมากของประเทศจอร์เจียและถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนเบื่อการเล่นเจ็ตสกีแต่ยังชอบกิจกรรมหรือกีฬาแนวแอดเวนเจอร์แล้วเราก็สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ยังมีการเตรียมกีฬามันๆเอาไว้รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวอีกด้วยและหนึ่งในกีฬาหรือกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากนั่นก็คือการกระโดดร่มนั่นเอง

          การเดินทางไปบนยอดเขานักท่องเที่ยวจะสามารถขับรถขึ้นไปเองก็ได้หรือจะนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปก็ได้ซึ่งในแต่ละปีนั้นจะมีนักท่องเที่ยวที่พากันเดินทางมาเล่นเจ็ตสกีกับที่รีสอร์ทแห่งนี้ค่อนข้างเยอะมากมายเลยทีเดียวโดยเมื่อคุณหันมองไปทางไหนนั้นคุณจะมองไม่เห็นต้นไม้เลยเพราะจะปกคลุมไปด้วยหิมะเต็มไปหมดทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งเล่นเจ็ตสกีที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของประเทศจอร์เจียนั่นเอง

         และในแต่ละปีที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับประเทศจอร์เจียได้อย่างมากมายเพราะไม่ว่าจะเป็นคนในประเทศจอร์เจียเองหรือแม้แต่คนต่างประเทศที่มาเที่ยวที่ประเทศจอร์เจียก็ต้องพากันแวะมาลองเล่นเจ็ตสกี และพากันมาสัมผัสกับบรรยากาศที่เย็นสบาย  

 

สนับสนุนโดย   ติดต่อ ufabet

มหาวิหารเซนต์แอนโดรของประเทศสิงคโปร์

            เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนที่ชื่นชอบการชมผลงานด้านศิลปะเกี่ยวกับเรื่องของการสร้างโบสถ์สร้างวิหารที่มีความสวยงามแล้วส่วนใหญ่จะนิยมไปท่องเที่ยวประเทศในแถบยุโรปไม่ว่าจะเป็นประเทศอิตาลีหรือ ประเทศฝรั่งเศสก็ตามทีเนื่องจากว่าประเทศในแถบยุโรปนั้นจะเห็นได้ว่ามีการสร้างโบสถ์และมหาวิหารนั้นยิ่งใหญ่อลังการมากโดยลักษณะของการออกแบบนั้นจะเป็นเหมือนกับปราสาทของเจ้าหญิงเจ้าชายเลยทีเดียวแต่อย่างไรก็ตาม

       ถ้าหากใครที่งบประมาณน้อยไม่สะดวกที่จะเดินทางไปไกลยังฝั่งประเทศในแถบยุโรปแล้วเราก็คุณสามารถชมความงดงามของโบสถ์วิหารที่มีความงดงามราวกับประสาทของเจ้าหญิงเจ้าชายได้จากประเทศใกล้เคียงกับประเทศไทยของเราอย่างเช่นประเทศสิงคโปร์นั้นเองซึ่งที่นี่มีโบสถ์ที่มีความงดงามเป็นอย่างมากและที่สำคัญเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์และเก่าแก่มากอีกด้วยโดยบทดังกล่าวนั้นมีชื่อเรียกว่าโบสถ์เซนต์แอนดรูว์หรือที่นี่ถูกเรียกเป็นมหาวิหารเซนต์แอนดรูนั่นเอง 

          สำหรับที่นี่นั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ด้วยการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน   City Hall Station  เนื่องจากว่าที่มหาวิหารเซนต์แอนดรูแห่งนี้มีการก่อสร้างเอาไว้อยู่ใจกลางเมืองของประเทศสิงคโปร์เลยทีเดียว   ใครที่ชื่นชอบเกี่ยวกับเรื่องของศิลปะการก่อสร้างโบสถ์วิหารที่นี่จะใช้เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ English  Gothic   ซึ่งลักษณะของตัวโบสถ์นั้นจะมีความคล้ายคลึงกับประสาทและตัวบทจะถูกทาสีขาวทั้งหมดเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่โดยโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช 1838

       ผู้ที่ก่อสร้างโบสถ์แห่งนี้ขึ้นมานั้นเป็นพ่อค้าชาวสกอตแลนด์ซึ่งเขาได้มีการให้นักโทษชาวอินเดียเป็นผู้ลงมือก่อสร้างเราได้มีการออกแบบอาคารเอาไว้อย่างสวยงามซึ่งตัวโบสถ์นั้นจะอยู่ท่ามกลางของสนามหญ้าสีเขียวขจีเรียกได้ว่าความขาวของตัวโบสถ์นั้นตัดกับสีเขียวของสนามหญ้าเลยทีเดียว  อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณเข้าไปเยี่ยมชมความงดงามใกล้ๆจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นลวดลายบนกระจกหรือผนังหรือการออกแบบประตูหน้าต่างมีการออกแบบเอาไว้อย่างสวยงามอ่อนช้อยมากเลยทีเดียว

          ซึ่งถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนต้องการที่จะเข้าไปเยี่ยมชมด้านในตัวโบสถ์แห่งนี้ก็สามารถเข้าไปได้โดยจะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมความงดงามได้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่ว่าถ้าเกิดว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาโบสถ์แห่งนี้จะปิดให้บริการเนื่องจากว่าจะใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนานั่นเอง 

        ที่ มหาวิหารเซนต์แอนโดร แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวควรหาเวลามาสัมผัสกับความสวยงามของศิลปะ และถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารเอาไว้เป็นภาพที่ระลึก

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

ไต้หวันดียังไง ?

    เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินชื่อประเทศไต้หวันแต่จะมีน้อยคนนั้นที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศไต้หวันแต่คุณรู้หรือไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วประเทศไต้หวันนั้นเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวเยอะมากซึ่งหลายคนที่เดินทางไปแล้วบอกว่าการไปเที่ยวที่ประเทศไต้หวัน

นั้นคุ้มค่ามากๆเพราะค่าเงินของประเทศไต้หวันนั้นถูกมากหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างกันถึง 3 เท่าเลยทีเดียวทั้งที่บรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไต้หวันกับประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความใกล้เคียงกันมากเลยทีเดียว 

        สำหรับใครที่อยากเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าคุณจะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศไหนแนะนำว่าประเทศไต้หวันเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าประเทศนี้ใช้ระยะเวลาในการเดินทางเพียงแค่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงเพียงเท่านั้นโดยคุณสามารถนั่งเครื่องบินของสายการบินได้หลายสายการบินเลยทีเดียวนอกจากนี้ประเทศไต้หวันนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอีกทั้ง ยังมีความทันสมัยเป็นอย่างมากนอกจากนี้อาหารที่ประเทศไต้หวันนั้นก็อร่อยถูกปากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน

       ในประเทศไต้หวันนั้นจะมีความปลอดภัยสูง  ถนนหนทางสะอาดตา  การเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกรวดเร็วด้วยรถไฟฟ้า อีกทั้งคนไต้หวันยังเป็นมิตร หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสไม่ต่างจากคนไทยเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าประเทศไต้หวันจะใหญ่ไม่เท่ากับประเทศไทย แต่ทางด้านความสะดวกสบาย การนำเทคโนโลยีออกมาใช้นั้น เรียกว่านำสมัยเป็นอย่างมาก 

      หากคุณต้องการเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศไต้หวันนั้น  คุณสามารถทำการจองตั๋วล่วงหน้าซึ่งจะเป็นตั๋วในราคาประหยัด โดยราคาตั๋วทั้งไปและกลับจากไทยไปไต้หวันนั้น ต่อคนไม่เกิน 10000 บาทและหากซื้อตั๋วราคาประหยัดอาจจะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 5000-7000 บาทก็ได้ นอกจากนี้ค่าที่พักที่ประเทศไต้หวันนั้น ไม่แพง ซึ่งมีราคาประมาณ 700-1500 บาทโดยเป็นราคาต่อคน ต่อคืน ส่วนเรื่องของค่ารถเดินทางในประเทศนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะไปเที่ยวที่ไหน 

      แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะเสียค่ารถประมาณคนละ ไม่เกิน 1000 บาทรวมถึงค่ากิน ค่าเที่ยว หากไม่ได้ช็อปปิ้งของมากนัก ก็ไม่เกิน ห้าพันบาทอย่างแน่นอน  ซึ่งยอดการใช้งานนี้ โดยรวมแลว หากเดินทางเพียงแค่ 3 วัน 2 คืนอาจจะเสียค่าใช้จ่ายไม่เกิน 30000 บาทซึ่งยอดนี้เป็นการเที่ยวและช็อปปิ้ง แต่อย่างไรก็ตามยอดรวมอาจจะใช้เงินน้อยกว่านี้ได้เช่นเดียวกัน 

      สำหรับการไปเที่ยวที่ไต้หวันนั้น นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเลือกไปเที่ยวได้หลายเมือง แต่ถ้าหากอยากเที่ยวเมืองที่มีสถานที่ทอ่งเที่ยวที่ขึ้นชื่อ และคนรู้จักกันทั่วโลกต้องไปเที่ยวที่เมืองไทเป  เพราะมีทั้ง ตึกไทเป 101 และยังมีทะเลสาบสุริยันจันทรา เป็นต้น 

 

สนับสนุนโดย    วิธีเล่นบาคาร่า ufabet

ชมโลกใต้ทะเลที่ ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง

           สำหรับใครที่ชื่นชอบการไปเที่ยวสวนสัตว์เชื่อว่าคุณจะต้องชื่นชอบการมาเที่ยวศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่จังหวัดระยองอย่างมากเลยทีเดียวเพราะที่นี่จะเป็นการจัดแสดงสัตว์ทะเลซึ่งมีชีวิตอยู่ใต้ทะเลนำมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันแน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นปลาหลากหลายสายพันธุ์มีทั้งปลาขนาดเล็กและปลาขนาดใหญ่  ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่าศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยองนั้นคือที่รวบรวมสัตว์ต่างๆในท้องทะเลนั่นเอง

       โดยปกติแล้วเวลาที่เราไปเที่ยวสวนสัตว์ก็จะเห็นเฉพาะแค่เพียงสัตว์บกเช่นเสือสิงโตรวมถึงยีราฟกระต่ายและสัตว์อื่นๆอีกมากมายแต่ที่ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำนี้เราจะเห็นเฉพาะสัตว์น้ำซึ่งอยู่ในทะเลซึ่งเราจะหาดูได้ยากมากเลยทีเดียวแต่ถ้าเกิดเรามาที่นี่สัตว์แปลกๆหายากเราก็สามารถดูได้จากที่นี่เช่นเดียวกัน 

           นอกจากเราจะเห็นสัตว์สวยๆแล้วเรายังได้รับความรู้จากการมาเที่ยวที่นี่อีกด้วยเพราะจะมีการแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของการทำประมง  ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆในการทำประมงหรือมีการนำเรือประมงมาแสดงให้ดู  โดยศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งนี้นั้นจะอยู่ที่ตำบลเพซึ่งเราสามารถที่จะเช็คพิกัดได้จากทาง Google

          ถ้าหากนักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะเดินทางมาเที่ยวที่ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยองนี้แล้วล่ะก็คุณสามารถเดินทางมาเที่ยวได้  ตั้งแต่วันพุธจนถึงวันอาทิตย์ซึ่งจะเปิดให้บริการช่วงเวลาตั้งแต่ 10:00 น เป็นต้นไปและจะปิดให้บริการตอน 16:00 น ส่วนสำหรับวันจันทร์และวันอังคารนั้นที่ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจะปิดให้บริการ 

         ถ้าหากนักทอ่งเที่ยวคนไหน ยังนึกไม่ออกว่าศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรแล้วล่ะก็ ให้ลองนึกถึง  อควาเรียมที่สยามพารากอนดูเพราะลักษณะมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมากนั่นก็คือเป็นการทำอุโมงค์กระจก ซึ่งด้านนอกนั้นก็จะเป็นน้ำทะเลทั้งหมดและมีปลามาแหวกว่ายให้เราดูโดยปลาก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆแล้วแต่ว่าปลาชนิดไหนจะว่ายมาตรงจุดที่เรายืนอยู่นั่นเองเรียกได้ว่าเราสามารถยืนอยู่แค่เพียงจุดเดียวก็สามารถมองเห็นสัตว์ทะเลได้แล้วไม่ว่าจะเป็นปลาฉลาม หรือแม้แต่เต่าทะเลก็มี 

   เมื่อเราเที่ยวชมศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถขับรถแล้วมาได้เรื่อยๆแวะรับประทานอาหารแถวสองข้างทางถนนของจังหวัดระยองซึ่งที่นี่จะมีร้านอาหารอร่อยมากมายโดยเฉพาะอาหารทะเลอาหารประเภทซีฟู้ด  แล้วต้องบอกเลยว่าอาหารทะเลในจังหวัดระยองนั้นราคาย่อมเยาอย่างมากเลยทีเดียวเพราะวัตถุดิบนั้นส่งตรงสดๆมาจากท้องทะเลนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย   จีคลับ คาสิโน

วัดท่าโสม วัดดังในจังหวัดตราด

          หากมีการพูดถึงจังหวัดตราดแล้วก็เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทะเลทรายส่วนใหญ่เนื่องจากว่าจังหวัดตราดนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมากเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นทะเลอย่างไรก็ตามที่จังหวัดตากจะมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจโดยในวันนี้เราจะพาไปรู้จักวัดชื่อดังในจังหวัดตราดแห่งหนึ่งชื่อวัดท่าโสมซึ่งวัดนี้ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนที่อาศัยอยู่ภายในบริเวณรอบๆวัดเลยทีเดียว

          สำหรับวัดท่าโสมนั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานมาแล้วหลายร้อยปีโดยมีการก่อตั้งขึ้นมาพร้อมกับชุมชนท่าโสมนั่นเองโดยมีการสร้างสถานที่แห่งนี้ตั้งแต่ช่วงประมาณปีพ.ศ 2405 ซึ่งถ้าหากนับเวลาตั้งแต่ตอนนี้ย้อนไปจนถึงปีพ.ศ 2405 นั้นก็เป็นเวลา 100 กว่าปีมาแล้วที่วัดแห่งนี้นั้นถือเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานและเป็นวัดที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือที่สำคัญวัดแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีความสวยงามนักท่องเที่ยวต่างเดินพากันเพื่อมาดูความสวยงามของตัววัดรวมถึงมนต์ขลังทางประวัติศาสตร์ของวัดแห่งนี้อีกด้วย

       เมื่อเข้าไปในพื้นที่เขตบริเวณวัดจะเห็นได้ว่าภายในบริเวณนั้นจะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่เพื่อปลูกเอาไว้บดบังแสงแดดให้กับชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดและตรงบริเวณกลางวัดนั้นแต่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ซึ่งประดิษฐานอยู่ตรงฐานสี่เหลี่ยมเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดสูงมากโดยชาวบ้านจะมากราบไหว้ขอพรที่องค์พระพุทธรูปองค์นี้นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ที่เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหยกขาวซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปประจำวัดท่าโสมเลยก็ว่าได้ด้วยพุทธรูปองค์นี้นั้นถูกนำมาจากประเทศเมียนมาร์

          โดยพระพุทธรูปนั้นสร้างมาจากหยกทั้งหมดมีการทรงเครื่องจักรพรรดิเป็นพระพุทธรูปที่มีความใหญ่มากที่สุดในภาคตะวันออกและชาวบ้านเชื่อกันว่าพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถองค์นี้นั้นมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากนอกจากนี้หากนักท่องเที่ยวคนไหนที่เข้าไปภายในอุโบสถจะเห็นได้ว่าตามผนังของอุโบสถนั้นจะมีการวาดรูปเกี่ยวกับพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าเอาไว้แต่ละภาพนั้นมีความสวยงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียวแม้แต่ด้านบนของหลังคาก็ยังมีการวาดภาพเอาไว้ได้อย่างสวยงาม

          นอกจากนี้ภายในพื้นที่บริเวณวัดนั้นยังมีวิหารเก่าแก่แห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อเรียกว่าวิหารหลวงพ่อไม้โดยที่นี่จะมีการนำพระพุทธรูปที่มีอายุหลายร้อยปีมาประดิษฐานไว้ที่นี่โดยพระพุทธรูปส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาไว้ที่วิหารหลวงพ่อไม้แห่งนี้นั้นจะเป็นพระพุทธรูปที่สร้างมาจากไม้ทั้งองค์และที่นี่ เป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูปที่ทรงคุณค่าเอาไว้ซึ่งชาวบ้านเองก็ให้ความศรัทธาและเคารพนับถือมากเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย    Ufabet เข้าสู่ระบบ

พระราชวังนิมเฟนบูร์ก ประเทศเยอรมัน

            สำหรับที่ประเทศเยอรมันนั้นก็มีประสาทหรือแม้แต่พระราชวังที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่ประเทศอังกฤษเลยทีเดียวโดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาไปรู้จักของประเทศเยอรมันในครั้งนี้นั้นก็คือพระราชวัง  นิมเฟนบูร์ก ซึ่งที่นี่นั้นมีการออกแบบให้เป็นแบบสไตล์บาร็อคโดยพระราชวังแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาชมความงดงามได้เนื่องจากว่าอยู่ในเมืองมิวนิคนั่นเอง   

        สำหรับพระราชวังนิมเฟนบูร์ก มีการออกแบบให้มีความงดงามเรียบหรูดูดีที่สำคัญสถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างนั้นมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครทำให้คนที่ชื่นชอบเกี่ยวกับผลงานด้านศิลปะมักจะเดินทางมาเที่ยวที่ราชวังแห่งนี้เพราะต้องการชมผลงานด้านศิลปะที่มีความงดงาม

ซึ่งถ้าหากใครได้เข้าไปเห็นความงดงามภายในพระราชวังแล้วล่ะก็จะต้องบอกเลยว่ามีศิลปะมากมายที่มีการสรรค์สร้างเอาไว้ภายในรวมถึงแม้แต่บนเพดานของพระราชวังก็ยังสวยงามเพราะมีการนำภาพวาดต่างๆมาจัดแสดงไว้มากมายเต็มไปหมดเรียกได้ว่าที่นี่นั้นเป็นสถานที่ที่มีการนำศิลปะรูปภาพต่างๆมาไว้จะแสดงให้กับประชาชนได้ชมกันเลยทีเดียว 

          สำหรับพระราชวังแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยศตวรรษที่ 18    ซึ่งมีการออกแบบและตกแต่งให้มีความทันสมัยและมีความวิจิตรงดงาม   โดยพระราชวังแห่งนี้นั้นต้องการที่จะสร้างขึ้นมาให้แก่บรรดาพระโอรสของพระมหากษัตริย์ได้มาพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนเรียกได้ว่าเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์ของประเทศเยอรมันนีเลยทีเดียวซึ่งแน่นอนว่าด้านในพระราชวังนั้นได้มีการตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม

            หากนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความงดงามของพระราชวังนิมเฟนบูร์ก แห่งนี้นอกจากคุณจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและพระราชวังที่งดงามมากมายแล้วคุณยังได้เพลิดเพลินกับความรู้ของพิพิธภัณฑ์รถม้าซึ่งมีการจัดแสดงเอาไว้ในพระราชวังแห่งนี้อีกด้วย  ต้องบอกว่ารถมาที่นำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั้นนักท่องเที่ยวหลายคนที่เดินทางมาเยี่ยมชมนั้นต่างก็ออกปากเหมือนกันหมดว่าเป็นรถม้าที่งดงามเป็นอย่างมากซึ่งรถมานี้เหมือนกับที่อยู่ในเทพนิยายเลยก็ว่าได้

           นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้ชมความสวยงามของศิลปะการตกแต่งภายในห้องของพระราชวังแห่งนี้ได้อีกด้วยซึ่งคุณสามารถชมห้องเก็บของรวมถึงห้องบรรทมของกษัตริย์ในสมัยนั้นได้ด้วยนอกจากนี้ตามผนังต่างๆก็ยังมีการนำรูปมาจัดแสดงเอาไว้ให้ดูกันเรียกได้ว่าใครที่ดื่มด่ำกับผลงานด้านศิลปะแล้วเราก็มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน 

              นอกจากนี้ทางด้านบริเวณพื้นที่รอบนอกของพระราชวังนิมเฟนบูร์ก  ยังมีการตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นศาลาริมน้ำรวมถึงสถาปัตยกรรมที่มาตกแต่งสวน เรียกได้ว่าที่นี่คือสถานที่แห่งเทพนิยายอีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้  ซึ่งคุณจะสัมผัสถึงความร่วมมือนความสวยงามและประติมากรรมต่างๆที่ถูกออกแบบไว้อย่างลงตัว

 

สนับสนุนโดย    คาสิโน ปอยเปต

โบสถ์ Canterbury ประเทศอังกฤษ

            สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศอังกฤษที่อยากจะให้มีโอกาสแวะไปเที่ยวกันในครั้งนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยรู้จักกันมากนักเนื่องจากว่าที่นี่นั้นจะอยู่ในเมือง Canterbury 

เพราะโดยปกติแล้วคนที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอังกฤษนั้นมักจะแวะเที่ยวที่เมืองลอนดอนเพียงเท่านั้นแต่อันที่จริงแล้วอังกฤษนั้นยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจยกตัวอย่างเช่นที่เมืองCanterbury  แห่งนี้นั้น ตรงบริเวณใจกลางเมืองจะมีบทบัญญัติแห่งหนึ่ง

         โดยโบสถ์นี้มีชื่อเรียกว่า โบสถ์ Canterbury   ซึ่งที่นี่นับได้ว่าเป็นโบสถ์ที่มีความเก่าแก่เพราะถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ 597  ซึ่งถ้านับอายุปัจจุบันนี้ โบส์ Canterbury  แห่งนี้นั้นมีอายุเกือบ 1500 ปีมาแล้ว  โดยที่บอร์ดแห่งนี้นั้นได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกของโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากความสวยงามและความเก่าแก่ซึ่งตอนที่มีการก่อสร้างโบสถ์Canterbury  แห่ง่นี้นั้น มีความต้องการที่จะใช้เป็นที่อยู่ของอาร์กบิชอป  Canterbury  

          ลักษณะของตัวโบสถ์นั้นจะมีลักษณะคล้ายกับประสาทซึ่งมีหลายชนิดด้วยกันบริเวณตัวโบสถ์น้ำมีพื้นที่กว้างขวางและถึงแม้ว่าจะเก่าแก่อายุมากกว่าพันปีมาแล้ว

แต่บวชแห่งนี้ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอดทำให้ยังคงสภาพความสวยงามเอาไว้โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่จะมีการถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งนั้นเคยได้มาเที่ยวโบสถ์ที่นับได้ว่าเป็นมรดกโลกชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้นอกจากนี้บริเวณพื้นที่โดยรอบโบสถ์Canterbury  ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเต็มไปหมด

           นอกจากจะมีที่เที่ยวแล้วยังมีที่ให้นักท่องเที่ยวได้ช้อปปิ้งหรือร้านอาหารต่างๆมากมายรวมถึงถ้าหากใครเหนื่อยจะแวะนั่งคาเฟ่ชิวๆสบายๆก็ได้เช่นเดียวกันและถ้าหากใครที่ชื่นชอบเกี่ยวกับเรื่องของศิลปะการวาดรูปต่างๆแล้วเราก็บริเวณใกล้ใกล้กับโบสถ์Canterbury   จะมี แกลลอรี่  ที่อยู่มากมายหลายร้านเลยทีเดียวซึ่งแต่ละ แกลลอรี่ นั้นก็จะมีการนำภาพศิลปะต่างๆมาวางขายให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเกี่ยวกับผลงานด้านศิลปะได้เพลินและซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกเยอะมากเลยทีเดียว  

        หากนักท่องเที่ยวคนไหนที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศอังกฤษแล้วเราก็อยากจะให้แวะไปที่เมือง  Canterbury แห่งนี้กันดูบ้างเพราะเมือง Canterbury แห่งนี้นั้น  ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่คุณนั้นสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวได้เยอะแยะเต็มไปหมดไม่ต่างจากกรุงลอนดอนเลยทีเดียวซึ่งจะทำให้คุณนั้นได้เที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายนอกเหนือจากการเที่ยวเฉพาะแค่ภายในกรุงลอนดอนเพียงเท่านั้น

        สำหรับการมาเที่ยวที่ Canterbury แห่งนี้นั้นนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟ โดยนั่งรถไฟมาลงที่สถานีCanterbury East ถ้าหากใครอยากจะมาชมความสวยงามของโบสถ์แล้วเราก็คุณสามารถเข้าไปชมความสวยงามได้เลยโดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว 

 

สนับสนุนโดย.    ทางเข้า ufabet

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปในฤดูหนาว

ฤดูหนาวจะเป็นฤดูที่เราจะมีการท่องเที่ยวกันอย่างมากในแบบของการท่องเที่ยวธรรมชาติ และการท่องเที่ยวที่ภาคเหนือ เพราะว่าในการท่องเที่ยวที่ภาคเหนือเราจะสามารถทำการสัมผัสกับความหนาวของฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี และเรายังจะสามารถชมวิวที่มีความสวยงามของทะเลหมอกได้เป็นอย่างดีเลย ซึ่งก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปในฤดูหนาวมากมาย ที่จะทำให้เราสามารถสัมผัสกับความหนาวของฤดูหนาวได้เป็นอย่างดีเลย โดยจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปดังนี้

  1. สวนป่าดอยบ่อหลวง

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นป่าที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นป่าสนที่มีความสวยงาม และมีความงดงามมาก ซึ่งจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้มีบรรยากาศดีมากๆ เหมาะกับการที่เราจะมาทำการท่องเที่ยวพักผ่อนรับชมความสวยงามของธณรมชาติ นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ยังจะมีบริการห้องพักที่จะทำให้เรา สามารถที่จะได้รับบรรยากาศในการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างดีเลย และยังจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้เหมาะกับการมาถ่ายรูปมากๆ

  1. ยอดดอยม่อนเงาะ

จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีผู้คนที่รู้จักกันมากนัก แต่เราจะสามารถที่จะมีการพบกับความสวยงามของธรรมชาติได้เป็นอย่างดีเลย ซึ่งจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับมาท่องเที่ยวกางเต็นท์นอนอย่างมาก และในการที่เราจะขึ้นมาท่องเที่ยว เรายังจะสามารถทำการขับรถขึ้นมาท่องเที่ยวได้ง่ายๆเลย และในตอนเช้าเราจะสามารถมีการรับชมทะเลหมกที่มีความสวยงามได้เป็นอย่างดี และเรายังจะสามารถรับชมพระอาทิตย์ในตอนเช้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

  1. ดอยผาฮี้

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นชุมชนของชนเผ่าที่ได้มีการใช้ชีวิตแบบง่ายๆสบายๆเลย ซึ่งในการท่องเที่ยวเราจะสามารถพบกับจุดชมวิวที่มีความสวยงาม ที่เราสามารถทำการนั่งห้อยขาชมวิวได้ นอกจากนี้ชาวบ้านที่นี้ยังจะมีการปลุกชาและกาแฟที่เป็นต้นตำหรับเลย ซึ่งถ้าใครได้มีการมาท่องเที่ยวที่นี้ก็ควรที่จะมีการลองดื่มดูสักครั้งหนึ่ง และจะติดใจรสชาติของที่นี้เลย

  1. ดอยสะโง้

จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้มีการแนะนำกันให้มาทำการชมวิวที่มีความสวยงามของที่นี้เลย ซึ่งในการที่เราได้มีการมาท่องเที่ยวตอนเช้าเราจะสามารถเห็นวิวของทะเลหมอกสวยๆ และพระอาทิตย์ที่ตกในตอนเย็นได้มีความสวยงามๆจากในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เลย เหมาะกับการที่เราจะทำการถ่ายรูปเล่นมากๆ นอกจากนี้ในการที่เราได้มีการมาท่องเที่ยวที่นี้ เรายังจะสามารถทำการเล่นเครื่องเล่นของชาวบ้านที่ได้มีการทำไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเล่นได้ด้วย

 

สนับสนุนโดย.   สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ