แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังจะถูกธรรมชาติเล่นงานจนอาจจะไม่สามารถไปเที่ยวได้

ในขณะนี้โลกของเรานั้นเกิดภาวะโลกร้อนซึ่งอันที่จริงและภาวะโลกร้อนนี้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งในแต่ละประเทศนั้นก็พยายามรณรงค์ประชาชนของตนเองให้หันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่องของภาวะโลกร้อนลดการใช้พลาสติกและลดการเผาขยะรวมถึงการใช้รถซึ่งปล่อยควันดำแต่ในขณะเดียวกันนั้นภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นจนเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกนั้นก็ยังเกิดขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

       ซึ่งทำให้จะมี แแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หลายแห่งที่อาจจะได้รับผลกระทบที่เกิดจากภาวะโลกร้อนซึ่งทำให้แหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ในอนาคตเราอาจจะไม่มีแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้แล้วก็เป็นไปได้ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวที่อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนซึ่งเราควรจะหาเวลาไปเที่ยวก่อนที่จะไม่มีแหล่งท่องเที่ยวนี้ให้เราได้เที่ยวกันอีกต่อไป 

         เทือกเขาเอลฟ์  

           สำหรับเทือกเขาเอลฟ์นั้นเชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยเช่นการปีนเขาเพราะที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์ที่นักบินเขานั้นชื่นชอบเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเนื่องจากว่าเป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดที่นักปีนเขาสามารถมาผจญภัยได้ซึ่งอยู่ในทวีปยุโรปนั้นเอง

       อย่างไรก็ตามเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าด้วยภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้ภูเขาน้ำแข็งทั้งทางด้านขั้วโลกเหนือและทางด้านขวาโลกใต้ละลายนอกจากนี้น้ำแข็งจากเทือกเขาเอลฟ์ก็ได้รับอิทธิพลนั้นเช่นเดียวกันจึงทำให้ในตอนนี้จะเห็นได้ว่าหิมะบนเทือกเขาเอลฟ์และน้ำแข็งบนเทือกเขาเอลนั้นกำลังละลายมากขึ้นเรื่อยๆในทุกๆปีบอกว่าอุณหภูมิบนเทือกเขาเริ่มมีความร้อนมากขึ้น

      ซึ่งในตอนนี้มีการสำรวจแล้วพบว่าในแต่ละปีนั้นเทือกเขาเอลฟ์จะมีการละลายของหิมะและน้ำแข็งไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งถ้าหากเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆเชื่อว่าภายในปี 2020 นั้นเราจะไม่มีโอกาสได้เห็นหิมะและน้ำแข็งบนเทือกเขาเอลอย่างแน่นอน

         มาดากัสการ์  

           สำหรับสถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกโดยสถานที่แห่งนี้นั้นอยู่ในมหาสมุทรอินเดียซึ่งเป็นหมู่เกาะที่มีขนาดใหญ่โดยที่นี่เป็นสถานที่อยู่อาศัยของสัตว์  และพืชพรรณความใหญ่ของเกาะแห่งนี้นั้นติดอันดับ 4 ของโลกเลยทีเดียว

โดยสัตว์ที่อาศัยอยู่บนเกาะมาดากัสการ์แห่งนี้เป็นสัตว์ท้องถิ่นซึ่งจะไม่สามารถเห็นได้จากที่ไหนนอกจากบนเกาะแห่งนี้เท่านั้นรวมถึงพืชบางชนิดเช่นเดียวกันดังนั้นเรียกได้ว่ามาดากัสการ์นั้นมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองและสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะมาดากัสการ์นั่นก็คือตัวลีเมอร์นั่นเอง 

         อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าเกาะแห่งนี้กำลังได้รับการคุกคามจากมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าทำให้ในตอนนี้สภาพของเกาะนั้นมีต้นไม้น้อยมากและสัตว์ก็เริ่มหายออกไปจากเกาะเนื่องจากว่าสัตว์บางชนิดนั้นสูญพันธุ์เพราะไม่มีที่อยู่อาศัยซึ่งมีการคำนวณกันว่าไม่น่าจะเกิน 35 ปีนี้ ถ้าหากว่ายังมีการบุกรุกทำลายป่า  รับรองที่มาดากัสการ์แห่งนี้จะไม่มีสัตว์ให้เราชมกันอีกต่อไปอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย    สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ